“ชัยวุฒิ” มั่นใจ ระบบดิจิทัลแอปติดตามตัวนักท่องเที่ยว ระบบรักษาความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่น

"ชัยวุฒิ" มั่นใจ ระบบดิจิทัลแอปติดตามตัวนักท่องเที่ยว ระบบรักษาความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่น ชี้ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" มาถูกทาง เล็งขยายไปพังงา กระบี่ ชลบุรี กทม.ต่อไป

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่มาตรวจติดตามโครงการภูเก็ต sandbox จากการรับฟังสรุปรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชนทุกภาคส่วนแล้ว ทำให้เกิดความมั่นใจว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว จากตัวเลขข้อมูลต่างๆที่ได้รับยืนยันว่าภูเก็ตแซนด์บอกซ์เดินหน้าได้อย่างดีและจะขยายผลไปจังหวัดข้างเคียงคือพังงาและกระบี่เร็วๆนี้ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลระบบ ICT สมัยใหม่มาใช้ในการติดตามตัวนักท่องเที่ยวและควบคุมมาตรการต่างๆให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยเชื่อว่าสิ่งที่ได้เดินหน้าโครงการมาแล้วทำให้เกิดความมั่นใจแก่คนไทยว่าเราสามารถเปิดประเทศได้ตามนโยบายพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมวกลาโหมที่เคยพูดไว้ว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศเดือนหน้าได้ต่อไปและกลับมาใช้ชีวิตปกติให้ได้เร็วที่สุดขอให้คนไทยทุกคนเชื่อมั่น

ส่วนปัญหาขั้นตอนการตรวจคัดกรองเชื้อโควิคก่อนเข้าเมืองภูเก็ตที่มีความยุ่งยากจะมีการปรับขั้นตอนให้สะดวกรวดเร็วขึ้นง่ายต่อการเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตหรือไม่นั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งยังคงต้องระมัดระวังควบคุมมาตรการการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อการระบาดของโควิด ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจหาเชื้อด้วยชุด Antigen Test Kitหรือ ATK และติดตามเรื่องการฉีดวัคซีนให้ครบก่อนจะเดินทางแต่สุดท้ายจะต้องมีการผ่อนปรนมาตรการซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะมีการหารือในต่อไปว่าจะมีมาตรการต่างๆออกมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น และเรื่องการใช้การตรวจแบบ rt-pcr กับนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างราคาสูงมากต่อครั้งอยู่ที่ 2,600 บาท ถ้าตรวจ 2 ครั้งก็อยู่ที่ 5,200 บาทแล้วและยังต้องมีค่าประกันสุขภาพด้วย ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนมากเป็นภาระต่อนักท่องเที่ยวทำให้คนไม่อยากมาเที่ยว จึงคิดว่าน่าจะลองทบทวนการใช้ ATK แทน RTt-PCR ได้หรือไม่เนื่องจากประเทศไทยมีการยอมรับเรื่องการใช้ ATK แล้วและ Rapid test ซึ่งมีความสะดวกและราคาถูกกว่าประมาณ 100-200 บาท ซึ่งตนจะนำเสนอต่อที่ประชุมสปกต่อไปเนื่องจากได้ข้อมูลรายงานมาและหลังจากนี้หากมีการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวไปหลายจังหวัดมากขึ้นปัญหาคือการเชื่อมโยงข้อมูลนักท่องเที่ยวกันระหว่างจังหวัด เชื่อมโยงมาตรการให้เป็นเนื้อเดียวกันควรจะต้องมีคอมมานด์ เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์รวมข้อมูลที่เดียว โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเชื่อมโยงข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

สำหรับการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ตประมาณวันละ 10,000 คน ประกอบกับการโปรโมทการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและผ่อนปรนมาตรการและลดค่าใช้จ่ายก็จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาภูเก็ตได้มากขึ้นและหากมีการขยายแหล่งท่องเที่ยวให้ข้ามไปถึงพังงาและกระบี่ด้วยจะยิ่งสร้างรายได้ให้กิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ที่พักต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องการเชื่อมโยงข้อมูล อยากให้ประเทศไทยเป็น One Country One Platform One Country One Application มีแค่ 1 แอปพลิเคชันเนื่องจากพบปัญหาว่าแต่ละหน่วยงานมีแอปของตัวเองทำให้นักท่องเที่ยวต้องโหลดแอปฯหลายแอปและข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน ต้องลดความซ้ำซ้อน และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าจะมีการขยายพื้นที่ในการเปิดรับการท่องเที่ยวเพิ่มเติมไปหลายพื้นที่รวมถึงจังหวัดชลบุรี ไปอ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวมถึงกรุงเทพฯที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวได้ ซึ่งภูเก็ตเปิดให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้แล้วซึ่งต้องมาติดตามกับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดโควิด จะมีมาตรการอื่นคอยระวังดูแลอยู่แล้วซึ่งถือเป็นวิถีชีวิตของนักท่องเที่ยวเมื่อมาพักผ่อนก็จะมีการดื่มสังสรรค์กันบ้างเพื่อกระตุ้นให้คนอยากมาเที่ยวมากขึ้น

นอกจากนี้ระบบควบคุมการติดตามตัวนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวโหลดแอปหมอชนะแล้วแต่มีการหนีออกจากพื้นที่ sandbox ก่อนเวลา 14 วันระบบจะสามารถรู้ได้ว่านักท่องเที่ยวคนใดหนีเนื่องจากมีการติดตั้งระบบติดตามตัวทุกคน รวมถึงมีการรายงานข้อมูลกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิดสามารถติดตามตัวได้เช่นกัน

ขณะที่นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ระบบรักษาความปลอดภัยมีกล้อง CCTV ระบบตรวจจับใบหน้าบริเวณด่านทางเข้าเชื่อมโยงความปลอดภัยด้านต่าง ๆ สามารถตรวจจับใบหน้าและสามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้หลายคดีมาแล้ว ซึ่งระบบทั้งหมดสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต จะเกิดความปลอดภัย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
“ณัฐวุฒิ” ไม่เชื่อมีม็อบใหญ่ไล่รัฐบาล หยันหากมีก็แค่ ‘กองเชียร์ส้ม’ ในคราบอนุรักษ์นิยม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น