‘มหาดไทย’ สั่งผู้ว่าฯทั่วปท. รับมือพายุ “ไลออนร็อก”

‘มหาดไทย’ สั่งผู้ว่าฯทั่วปท. รับมือพายุ “ไลออนร็อก”

วันที่ 9 ต.ค.2564 พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มีคำสั่งด่วนที่สุด ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด ทุกจังหวัด เรื่องการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และผลกระทบจากพายุ “ไลออนร๊อก” จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม 2564 พายุโซนร้อน “ไลออนร็อก” บริเวณทะเลนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 50 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คาคว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันตามัน ภาคโต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรงขึ้น จึงให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ถือปฏิบัติตามแนวทางตามหนังสือที่อ้างถึง ตลอดจนข้อสั่งการในที่ประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งดำเนินการตามแนวทางดังนี้

1.ให้คณะทำงานติดตามสถานการณ์ของจังหวัด ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยประสบอุทกภัย น้ำท่วมชัง และดินโคลนถล่ม จากกรณีฝนตกหนัก หรือต่อเนื่องในพื้นที่ ที่เป็นเขตเศรษฐกิจของจังหวัด พื้นที่ท้ายเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝายที่มีปริมาณน้ำมาก และพื้นที่เชิงเขา พร้อมจัดทำข้อมูลแผนที่เส้นทางน้ำที่อาจส่งผลกระทบชุมชนเขตเศรษฐกิจ ให้ครอบคลุม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสนับสนุนการตัดสินใจของผู้อำนวยการในแต่ละระดับให้สามารถแจ้งเตือนประชาชน ตลอดจนบูรณาการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าป้องกันการเกิดน้ำท่วม และเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ

2. กำชับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระตับ ปรับแผนเผชิญเหตุอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ และให้แบ่งมอบพื้นที่ภารกิจ หน่วยงานรับผิดขอบในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ชัดเจน หากกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ไม่เพียงพอให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยทหาร และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง 3.เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ให้จัดชุดปฎิบัติการจากหน่วยต่างเข้าเร่งคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมดูแลความเป็นอยู่ประชาชน

4. หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง ให้สั่งการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ทันที ทั้งนี้ปฏิบัติการควบคูไปกับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 5. สำหรับจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือติดชายฝั่งทะเลให้มอบหมายหน่วยงาน ที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น บริเวณน้ำตก ถ้ำ กำหนดมาตรการในการแจ้งเตือนการปิดกั้น หรือห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

6. ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบสรุปสถานการณ์ และรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจึงเรียนมาเพื่อดำเนินการต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น