จับหนุ่มอ้างเป็น “กองปราบ” ตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญเงินหลักล้าน

ตำรวจจับหนุ่มวัย 28 อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบ หลอกเหยื่อร่วมลงทุนร้านอาหาร ทวงถามเงินผลตอบแทน กลับบ่ายเบี่ยง แถมปลอมไลน์อ้างว่าคุยกับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จนเหยื่อตายใจ สุดท้ายเหยื่อรู้ตัวสูญเงินถึงหลักล้าน

9 ต.ค.2564 ตำรวจกองปราบ นำหมายจับศาลอาญาธนบุรี เข้าจับกุมนายพลกร (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุลคลใดบุคคลหนึ่ง และไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานหรือใชัยศตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ” โดยจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ย่านซอยกอไผ่ ถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 นายพลกร ผู้ต้องหา อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบ หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยนายพลกร ผู้ต้องหา อ้างกับผู้เสียหายว่าตนเองได้ไปเซ้งร้านอาหารแห่งหนึ่งมา และต้องการให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี ผู้เสียหายหลงเชื่อตกลงร่วมลงทุน

ต่อมาเมื่อผู้เสียหายสอบถามถึงผลตอบแทนในการลงทุน ผู้ต้องหากลับขอผัดผ่อนการจ่ายผลตอบเเทนเรื่อยมา โดยมักจะใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อต่างๆ นานา เช่น หลอกว่าตนเองรู้จักสนิทคุ้นเคยกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คนปัจจุบัน ทำให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ และทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจกองปราบจริง

โดยผู้ต้องหาจะส่งหลักฐานการแชทไลน์ที่ใช้ชื่อว่า “ผู้การกองปราบ”, “พี่ก้อง”, “THE KONG” กับไลน์ของผู้ต้องหาให้ทางผู้เสียหายดู เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าพูดคุยกับ พล.ต.ท.จิรภพ จริง โดยหลักฐานการพูดคุยดังกล่าว เป็นหลักฐานที่ผู้ต้องหาสร้างขึ้นมาเองทั้งหมด ซึ่งมีทั้งการใช้ชื่อและภาพของ พล.ต.ท.จิรภพ มาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ไลน์ และนอกจากนี้ผู้ต้องหายังมีการแอบอ้างอีกว่าตนเองเป็นหลานของนายทหารระดับสูง ซึ่งตนเองกำลังจะได้รับมรดกจากนายทหารคนดังกล่าว ยืนยันว่าตนเองสามารถนำเงินผลตอบเเทนมาคืนให้กับผู้เสียหายได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในระหว่างที่ผู้ต้องหาขอผัดผ่อนเงินผลตอบเเทนของผู้เสียหายเรื่อยมานั้น ผู้ต้องหายังคงออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหาย อาทิ หลอกให้เชื่อว่าผู้เสียหายกำลังมีเคราะห์กรรมร่วมกับผู้ต้องหา และ พล.ต.ท.จิรภพ หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพื่อทำพิธีแก้กรรมสะเดาะเคราะห์, หลอก เสียหายให้เชื่อว่าผู้ต้องหากำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้หย่ากับภรรยาและได้นำทรัพย์สินไปจำนำกับบุคคลอื่น จึงจำเป็นต้องขอยืมเงินผู้เสียหายเพื่อนำไปไถ่ถอนทรัพย์สินดังกล่าวออกมา

และภายหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้แล้วนั้น ผู้ต้องหากลับขาดการติดต่อ และผู้เสียหายก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกทำให้เชื่อว่าตนเองถูกหลอก ซึ่งผู้เสียหาย โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาจำนวนทั้งสิ้น 162 ครั้ง เป็นเงินจำนวนกว่า 1,600,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจกองปราบ จึงทำการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับ ต่อมาวันที่ 8 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และเข้าทำการจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลางรวม 11รายกลาง ประกอบด้วย

1. สิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนอัดลม) จำนวน ๒ กระบอก 2. สิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนไฟแช็ก) จำนวน 1 กระบอก 3. เครื่องหมายขีดความสามารถหลักสูตรรบพิเศษแขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจมนาวิกโยธิน 4. แหวนสัญลักษณ์ตราแผ่นดิน 5. แหวนสัญลักษณ์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 6. เสื้อกันกระสุน 7. เสื้อกั๊กสีดำมีตรากองบังคับการปราบปราม 8. ภาพถ่ายเคียงธงโรงเรียนนายร้อยตำรวจ 9. ซองปืนคาดเอวแบบพกซ่อน 10. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง 11. เอกสารให้มีและใช้อาวุธปืน

จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาพบว่า ผู้ต้องหายังคงมีหมายจับที่ยังต้องการตัวอีก 2 หมายจับ ดังนี้
1. หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 635/2563 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
2. หมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ 40/2564 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ชูศักดิ์" เผยประชาชนหลั่งไหลสักการะ "พระเขี้ยวแก้ว" เพื่อความเป็นสิริมงคล ทุบสถิติ 45 วัน รวมกว่า 1 ล้านคน
จนท.คุมเข้มตรวจรถเข้า-ออก "ชายแดนแม่สอด" ทุกคัน หวั่นซ้ำรอย "นายแบบจีน" ถูกลวงไปฝั่งเมียนมา
"สุริยะ" มอบทีมที่ปรึกษา ลงพื้นที่เชียงราย ติดตามผลดำเนินงาน "ธนาคารที่ดิน" ช่วยเหลือเกษตรกรไทย
"ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ" สั่งระดมนักดับเพลิง เร่งคุมไฟไหม้บ่อขยะเอกชน พร้อมเอาผิดเจ้าของที่ดินลอบทิ้งขยะ
"คริส หอวัง" ร้อง สอท. หลังถูกมิจฉาชีพโพสต์ข่าวปลอมลวงกดลิงก์ หวั่นแฟนคลับถูกหลอก
ตร.พระโขนง สั่งไม่ฟ้อง "ภรรยาบิ๊กโจ๊ก" หลังถูก "เจ๊หนิง" แจ้งจับฐานลักทรัพย์
พบแล้ว! "หยาง เจ๋อ ฉี" หลังหายตัวปริศนา ล่าสุดส่งกลับบ้านเกิดปลอดภัย
ชลบุรีระทึก ไฟป่าบ้านบึง ยังลุกลาม ผู้ว่าฯสั่งเร่งดับ ป้องกันลุกลามบานปลาย
OPPO ขอโทษปชช. หลังพบแอปฯเงินกู้นอกระบบในมือถือ เปิดสายด่วนช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบตลอด 24 ชม.
"สุริยะ" ปลื้ม ยอดจองสิทธิ์บ้านเพื่อคนไทยชม.แรกทะลุ 12 ล้านคน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น