ที่อาคารชื่นฤทัยในธรรม จ.นนทบุรี พรรคไทยภักดี โดยหัวหน้าพรรค นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ถือฤกษ์ 09.09 น. แถลงเปิดตัวพรรค พร้อมประกาศรับสมัครสมาชิก และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบุคคลสำคัญทางการเมือง อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ // พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนาผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ // ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ // นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน // นายสุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย // นายสาธิต เซกัล อดีตแกนนำ กปปส. // นางหฤทัย ม่วงบุญศรี // นายคชโยธี เฉียบแหลม แกนนำกลุ่มเยาวชนช่วยชาติ // นายจักรพงษ์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ร่วมยินดี
โดยช่วงหนึ่งในการแถลงข่าวเปิดตัวพรรค นายเเพทย์วรงค์ กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา มีกระบวนการล้มล้างสถาบัน โดยเห็นชัดเจนที่จาบจ้วงเบื้องสูง อ้างจะปฏิรูปสถาบัน เพื่อที่จะแก้ไข ม.112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยใช้วิธีการยุยงปลุกปั่นเยาวชน จากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย กระบวนการเหล่านี้ขยายใหญ่โต เชื่อมโยงทั้งในสภา นอกสภา องค์กรต่างประเทศ และเครือข่ายต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราทำได้เพียง 2 อย่างคือ เปิดเผยความจริงและพยายามใช้ข้อกฏหมาย แต่ทำแค่ 2 อย่างนั้นไม่เพียงพอ โดยสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อสถาบันหลักของชาติมากที่สุดคือ ประชาชนต้องอยู่ดีกินดี รัฐบาลต้องซื่อสัตย์ โปร่งใสและตรวจสอบได้
นายแพทย์วรงค์ ยังบอกต่อว่าปัญหาที่เป็นรากเหง้าของประเทศในอดีตที่ผ่านมาเกิดจากนักการเมือง นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร มีการตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา และจะเห็นได้ชัดว่าในรัฐธรรมนูญ 60 นั้น ระบุไว้ในหมวดของการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งในอดีตที่ใช้บัตร 2 ใบ ส.ส.ไม่ได้มาจากประชาชน แต่ ส.ส.คือตัวเเทนของพรรคการเมืองและนายทุนเจ้าของพรรค สิ่งที่ตนเศร้าใจคือ ขณะนี้ส.ส.ในสภาคิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบในอดีตที่สร้างปัญหาให้กับประเทศ เป็นรัฐธรรมนูญลักไก่ ขัดหลักการอย่างชัดเจน และขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน แต่ไม่เป็นไรถ้าทุกคนช่วยกันช่องทางก็ยังคงมี ทั้งการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดยยื่นผ่านผู้ตรวจการเเผ่นดิน ซึ่งตนของชวนประชาชนใช้สิทธิ์ร้องผ่านผู้ตรวจการเเผ่นดินตั้งแต่สัปดาห์หน้า ตาม ม.213 ของรัฐธรรมนูญ
หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยังบอกเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น เป็นปัญหารากฐานของประเทศเกิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ที่คณะราษฎร์ ปล้นพระราชอำนาจมา ไม่ยอมวางโครงสร้างรากฐานนำไปสู้การทุจริต ให้เงินสินบนมาจนถึงปัจจุบันนี้ พรรคไทยภักดีสัญญาว่าจะเข้าไปปราบโกง รวมไปถึงปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปราคาพืชผลทางการเกษตร โดยจะเห็นว่าปัญหาทุกอย่างเกิดจากการทุจริตคอรัปชั่นทั้งนั้น พร้อมยืนยันว่าพรรค เป็นของประชาชนที่จะไม่ขอรับเงินทุนแบบผูกชาติ จะเอาเงินมาให้เป็นร้อยล้านก็ไม่เอา เพราะเชื่อว่านายทุนที่มีขนาดใหญ่เมื่อลงทุนแล้ว ก็ต้องมาหาผลประโยชน์จากประชาชนอีก เงินของคนพวกนี้แพ้เงินของประชาชน ไทยภักดีจะหารูปแบบในการระดมทุนไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น เราจะระดมทุนด้วยการทำเสื้อยืด 1 ล้านตัว ราคาก็แล้วแต่ประชาชน
นายแพทยวรงค์ ได้ประกาศพร้อมรับไม้ต่อ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพร้อมสู้สนามเลือกตั้งในทุกกติกาไม่ว่าบัตรเลือกตั้งใบเดียว หรือบัตรสองใบ รวมถึงยืนยันจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทุกเขต ไม่ว่ากฎหมายจะกำหนด 350 เขต หรือ 400 เขต และเปิดเผยความคืบหน้าของพรรคในกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครได้เกือบครบทั่วประเทศแล้ว และจะส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีกด้วย
ทีมข่าว Top News ได้สอบถามกับว่าที่ผู้สมัครสมาชิกพรรคยืนยันพร้อมสนับสนุนอุดมการณ์พรรคไทยภักดี รู้สึกดีใจที่มีพรรคที่ปกป้องชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยนางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือคุณอุ๊ ว่าที่สมาชิกพรรคไทยภักดี พร้อมคุณแม่ได้เดินทางมาสมัครสมาชิกย้ำว่า การตั้งพรรคไทยภักดี คือสิ่งที่รอคอยมานานมีความหวังว่าอยากเห็นนายแพทย์วรงค์เข้ามามีบทบาท ทำหน้าที่ของนักการเมืองออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีพรรคการเมืองและกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีกับสถาบันศูนย์รวมใจของคนไทย โดยส่วนตัวพร้อมที่จะช่วยในส่วนงานของพรรคในการเดินหน้าหาเสียง แต่หากเป็นงานด้านการเมืองคงยังไม่สามารถลงไปเต็มตัวได้ เพราะมีภาระของความเป็นแม่
ด้านนายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำขบวนกลุ่มแนวร่วมกว่า 30 คน เข้าสมัครสมาชิกพรรค และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศรอคอยเช่นเดียวกับตนเองและมองเป็นโอกาสอันดีในการมีพรรคการเมืองน้ำดีและคนแบบนายแพทย์วรงค์ เข้ามาอาสาทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนและประเทศดีขึ้น ยืนยันว่าการมาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อปกป้องสถาบันและต่อสู้กับกลุ่มสามนิ้ว ต่อให้อนาคตจะเป็นยังไง จะยังคงยึดมั่นในการปกป้องสถาบัน นายจักรพงศ์ ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดที่จะทำงานด้านการเมือง แต่เมื่อมีพรรคการเมืองที่มีแนวคิดเดียวกันก็พร้อมที่จะเป็นทีมงาน
