ภายหลังจากที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึงปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)ในฐานะนายทะเบียนกลาง ตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 จากเดิมที่สมาคมฯได้เคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ 16 องค์กรด้านผู้บริโภค อาจมีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 5(1) และ(2) แห่งพ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 คือ องค์กรที่จัดตั้งไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อาจถูกครอบงำ โดยผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นนิติบุคคล กรรมการหรือผู้มีอำนาจบริหารของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือ โดยหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพรรคการเมือง ซึ่งเป็นข้อห้ามตามกฎหมาย
ล่าสุดทีมข่าว Top News ได้สอบถามไปยังนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เป็น นายทะเบียนกลาง และนายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการสํานักนายกฯ เป็นนายทะเบียนจังหวัดผู้ที่รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามที่นายศรีสุวรรณ ร้องเรียนมาเป็นการด่วน ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของสำนักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ตามพ.ร.บ.สภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 นั้น เป็นเพียงนายทะเบียนที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นส่วนการบริหารจัดการภายในองค์กรของผู้บริโภคไม่สามารถไปก้าวล่วงได้เพื่อให้เป็นองค์กรที่มีอิสระ
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายมงคลชัย ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของนายทะเบียนจังหวัดที่ได้รับการรายงานมาครบทุกจังหวัดแล้วและอยู่ระหว่างการตรวจสอบซ้ำเพื่อให้เกิดความถูกต้อง
เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการจัดตั้งองค์กรไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของพ.ร.บ.ฯ แต่ทางปลัดสำนักนายกก็ไม่ได้นิ่งนอนใจสั่งการให้เร่งทำการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนครบถ้วนถูกต้องและรายงานขึ้นมาทันทีและหากพบว่ามีการกระทำความผิดแจ้งข้อมูลองค์กรเป็นเท็จก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายเท่าที่จะทำได้คือมีอำนาจแค่เพียงเพิกถอนชื่อองค์กรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น
ส่วนในเรื่องการใช้จ่ายเงินของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ได้รับเงินของรัฐ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) หรือ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาตรวจสอบเพราะถือเป็นเงินของแผ่นดิน แต่ในส่วนนี้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เพราะถือเป็นกิจการภายในของสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งสปน.มีหน้าที่เพียงรับจดแจ้งหรือเพิกถอนชื่อองค์กรเท่านั้น
นอกจากนี้นายพิฆเนศให้ข้อมูลว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลองค์กรซ้ำรอบ 2 เพื่อให้เกิดความถูกต้องชัดเจนและปลายเดือนต.ค.นี้จะมีผลสรุปเพื่อรายงานให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทราบต่อไป แต่เบื้องต้นไม่มีเรื่องที่ให้น่ากังวลและยังไม่พบองค์กรที่ถือว่ากระทำความผิด แต่ก็ต้องตรวจสอบให้เกิดความแน่ใจก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง