วันที่ 11 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง สายบ้านโรงเลื่อย-บ้านยะวึก(อ.สตึก-อ.ชุมพลบุรี ) ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำมูลแห่งที่ 2 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้มีชาวบ้านจากหลายตำบล นับพันคน เดินทางมาเที่ยวและเล่นน้ำที่ไหลเอ่อท่วมถนนสูงประมาณ 20 ซม.ระยะทางประมาณ 1 กม.ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามชาวบ้านมีทั้งมาแบบหนุ่มสาวและมาแบบครอบครัว ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน บรรดาพ่อค้าแม่ค้า นำสินค้ามาขายกันเป็นจำนวนมาก
โดยมวลน้ำดังกล่าวเป็นมวลน้ำจากเขื่อนลำเชียงไกร จ.นครราชสีมา ที่ไหลมาถึงจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ อ.คูเมือง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา แต่ปริมาณน้ำไม่ไหลแรง หรือสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนแต่อย่างใด
นางทองดี ทองสุข อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 12 บ้านหนองบัวเหนือ ต.นิคม อ.สตึก เล่าว่า หลังทราบว่ามีน้ำท่วมถนนสายเลี่ยงเมืองบ้านโรงเลื่อย จึงได้ชักชวนลูกหลานกว่า 10 คน พร้อมนำเสบียงอาหารครบมาเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว สามารถผ่อนเคลียดความเครียดได้ระดับหนึ่ง
ขณะที่นางรำไพ ทองทา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/3 หมู่ที่ 20 ต.นิคม อ.สตึก แม่ค้าขายไส้กรอกอีสาณ เล่าว่า เดิมขายที่ตลาดสด หลังทราบข่าวว่ามีชาวบ้านมาเล่นน้ำที่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก จึงน้ำไส้กรอกอีสาณมาขายให้ผู้มาท่องเที่ยว ปรากฏว่าขายดี มียอดขายวันแรกกว่า 3,000 บาท จากปกติขายได้วันละประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น
ด้านนายพนัส วีระวัฒนพงศ์ ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำในจังหวัดบุรีรัมย์ มีทั้งหมด 17 แห่ง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1 แห่ง สามารถจุน้ำได้ทั้งหมดประมาณ 295 ล้าน ลบม.ปริมาณน้ำตอนนี้อยู่ที่ 230 ล้าน ลบม. หรือประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของความจุ
ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อ.เมือง บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาในตัวจังหวัดบุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำตอนนี้ประมาณ 45 ล้าน ลบม. หรือประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของความจุ
ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า เขื่อนลำเชียงไกร จ.นครราชสีมา ที่”ปริ”ออกมา ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ด้วยการผันน้ำออกจากฝายต่างๆ ก่อนที่มวลน้ำจะมาถึง ทำให้มวลน้ำจากเขื่อนลำเชียงไกร อ่อนกำลังลง เพราะไม่มาสบทบกับน้ำเดิม อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะสามารถรับมวลน้ำทั้งเขื่อนลำเชียงไกร และปริมาณน้ำฝนที่คาดว่าจะตกลงมาอีกตามพยากรณ์หลังจากนี้ได้ แต่น้ำจะเอ่อท่วมนาข้าวบ้าง ตามที่ลุ่มซึ่งจะเกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์