เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 64 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุให้มีการยุบสภาโดยเร็วว่า โพลดังกล่าวไม่มีความน่าเชื่อถือ และยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของการทำหน้าที่ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติที่แยกกันอย่างชัดเจน ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่มาได้มีผลงานจำนวนมากเป็นประวัติศาสตร์ มีการร่วมกันพิจารณาผ่านร่างกฎหมายจำนวนมาก
“สภาผู้แทนราษฎรเพิ่งจะมีมติเป็นเอกฉันท์ รับหลักการร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือพ.ร.บ. อุ้มหาย และขณะนี้ก็อยู่ในชั้นพิจารณาของกรรมาธิการจ่อที่จะเข้าสภาใหญ่ในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป กฎหมายเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนรอคอยกันอยู่ ซึ่งการเรียกร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ทั้งที่สภาไม่มีความผิด คงไม่ยุติธรรมต่อ ส.ส.หลายคนที่มุ่งมั่น ขยันทำหน้าที่ อีกทั้งยังมีวาระการพิจารณาร่างกฎหมายอีกหลายฉบับ ที่เรียงคิวรอเข้าที่ประชุมอีกเพียบ ถ้ายุบสภาตอนนี้เท่ากับต้องเริ่มกันใหม่” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวต่อว่า หากสภาฯมีความผิดเหมือนในปี 2555 ที่พรรครัฐบาลใช้เสียงมากลากไป หวังออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พานายใหญ่ที่อยู่ต่างแดนกลับสู่ประเทศ สภาฯก็สมควรถูกยุบไป เพราะไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนประชาชน กลับมุ่งหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ของตัวเองและนายทุนของพรรคเท่านั้น แต่วันนี้สภาคือที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะเข้ามมขอความช่วยเหลือกับกรรมาธิการ ซึ่งที่ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่น่าภาคภูมิใจ