วันที่ 12 ตุลาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะทั้งนายพีระพันธุ์ และนายสมศักดิ์ ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน และเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากนายกฯและพลเอกประวิตร อย่างมากในการทำงานร่วมกันในรัฐบาลนี้
ส่วนการที่หัวหน้าพรรคได้แต่งตั้งนายพีระพันธุ์และนายสมศักดิ์ ได้เข้าไปทำงานภายในพรรคพลังประชารัฐในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ตนเองมองว่าจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพรรคพลังประชารัฐมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้นายพีระพันธุ์ก็ยืนยันแล้วว่าพร้อมที่จะช่วยงานพลเอกประวิตรและพรรคอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าการเข้ามาทำงานในพรรคไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็นรายชื่อนายกฯสำรองของพรรค โดยเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเซียลเท่านั้น ส่วนกระแสภายในพรรคพลังประชารัฐคัดค้านนายพีระพันธุ์นั้น พลเอกประวิตร ยืนยันแล้วว่าไม่มีอะไรหรอก เรื่องนี้เป็นที่ตัวบุคคล
นั่นหมายความว่า ไม่ได้มีกระแสอะไรในพรรคต่อต้านตามที่เป็นข่าว พรรคพลังประชารัฐภายใต้การดูแลของพลเอกประวิตรหัวหน้าพรรคยังมีเอกภาพดี ยิ่งได้ 2 กุนซือที่ช่ำชองสังเวียนทางการเมืองมาช่วยหัวหน้าพรรค ยิ่งจะทำให้พรรคมีความแข็งแกร่ง ตนมั่นใจว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ชนะเลิศการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายมาเป็นอันดับหนึ่ง ตนมั่นใจชัวร์ ด้วยผลงานและนโยบายของนายกฯพลเอกประยุทธ์และรัฐบาลที่ได้สร้างผลงานไว้อย่างมากมาย และจะส่งผลให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้กระแสชื่นชมตอบรับของพี่น้องประชาชนอีกหนึ่งสมัยอย่างแน่นอน
” ตนมองว่า กระแสต่อต้านนายพีระพันธ์ุที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากคนในพรรค แต่เป็นกระแสปั่นของคนฝ่ายตรงข้ามที่อิจฉาพรรคฯกลัวว่า ถ้านายพีระพันธุ์ เสริมทัพให้พรรคฯแล้วจะทำให้พรรคพปชร. ไร้คู่แข่งในสนามแข่งขัน ยิ่งได้นายสมศักดิ์ สุดยอดเซียนยุทธจักรการเมืองคนสำคัญ มาช่วยหัวหน้าพรรคจัดทัพสู้ด้วยแล้ว ยิ่งจะหยุดความแรงของพรรคพลังประชารัฐไม่อยู่แน่ ตนมองไม่เห็นพรรคคู่แข่งที่น่ากลัวในสนามเลือกตั้งเลยสักพรรค เห็นจะมีแต่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคที่ชอบเพ้อเจ้อพูดจ้อๆบ้าน้ำลายพ่นจนปากเน่าปากเหม็นรายวัน ไม่ได้มีผลงานช่วยเหลือชาวบ้านอะไรเลย ต่างจากพรรคพลังประชารัฐที่มีผลงานมากมายถูกใจประชาชน ดังนั้นเลือกตั้งครั้งหน้าจึงนอนมาอย่างไม่ต้องสงสัย พร้อมกับจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งในสมัยหน้าอย่างแน่นอน ตนมั่นใจที่สุด “