“นพ.เรวัต” มอง นายกฯ ประกาศเปิดประเทศ แค่ลดแรงกดดันทางการเมือง-เศรษฐกิจ

“นพ.เรวัต” มอง นายกฯ ประกาศเปิดประเทศ แค่ลดแรงกดดันทางการเมือง-เศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีคำแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ว่า ตนสนับสนุนการเปิดประเทศ แต่ต้องอยู่บนความพร้อม และความนิ่งของสถานการณ์ระบาด ไม่ใช่ประกาศเพราะอยู่บนความกดดันทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือต้องการพูดเพื่อแก้ไขความตกต่ำทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งตนมองว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พูดเมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค.นั้น เพราะต้องการรักษาภาพ และรักษาความเชื่อถือของรัฐบาลที่เคยประกาศจะเปิดประเทศภายใน 120วัน

“ผมเคยถามถึงแผนการเปิดประเทศในสภาฯ และอีกหลายครั้งผ่านสื่อต่างๆ แต่รัฐบาลไม่เคยมีคำตอบให้ ดังนั้นเชื่อว่าการเปิดประเทศที่บอกไว้ก่อนนั้นไม่มีแผนรองรับ ส่วนที่บอกจะเปิดประเทศอีกครั้ง ขณะที่สถานการณ์ระบาดยังไม่นิ่งพอที่จะเปิดประเทศ ส่วนวัคซีนที่บอกตัวเลข แต่เป็นตัวเลขในอากาศ ไม่มีอยู่ในมือจริงๆ เป็นแค่คำโฆษณาเท่านั้น ทั้งนี้คนไทยอยากรู้ว่าวัคซีนที่มีอยู่จริงเท่าไร และจะปักบนแขนประชาชนได้กี่คน และเร็วที่สุดได้เมื่อไร ทั้งนี้ยังพบว่าตัวเลขคนที่นอนรักษาตัวที่มากถึง 80% คือ คนมีโรคกลุ่มเสี่ยง คนสูงอายุ หญิงมีครรภ์ ดังนั้นหากจะจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคที่มีประสิทธิ ควรให้กลุ่มดังกล่าวสูงที่สุดก่อน” นพ.เรวัต กล่าว

นพ.เรวัต กล่าวด้วยว่า สำหรับการติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีอัตราสูงดังนั้นรัฐต้องเร่งเข้าไปจัดการและแก้ไขโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามตนมองว่าศบค. ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของความมั่นคงมีความผิดพลาดต่อการแก้ปัญหา ทั้งที่ควรเร่งซีลพื้นที่ 3จังหวัดชายภาคใต้ ที่พบสถิติว่ามีผู้ติดเชื้อพิ่มวันละพัน และพบการติดเชื้อทั้ง 3สายพันธุ์ และตัวเลขของการตรวจด้วย ATK ยังพบผู้ติดเชื้อเบื้องต้นอีกจำนวนมาก ดังนั้นสถานการณ์การระบาดของประเทศยังไม่น่าไว้วางใจ แต่การประกาศเปิดประเทศอีกครั้งของพล.อ.ประยุทธ์ คือ การแก้ปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความน่าเชื่อถือ ซึ่งตนมองว่าอาจเป็นการสร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ให้กับประชาชน เหมือนที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกว่าจะอยู่อีกไม่นาน แต่ขณะนี้อยู่มาแล้ว เกือบ 8 ปี

นพ.เรวัต กล่าวถึงกรณีของการเสนอ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่ขณะนี้ยังไม่ดำเนินการทูลเกล้าฯ และมีแนวโน้มว่าจะเสนอต่อรัฐสภาในรูปแบบของการแก้ไขพ.ร.บ. ว่า ตนสนับสนุน เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติช่วยดูรายละเอียดให้เกิดความรอบคอบ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะเสนอร่างแก้ไขพ.ร.บ.โรคติดต่อ ให้รัฐสภาพิจารณาโดยยกชั้นเป็นกฎหมายปฏิรูปนั้น อาจเป็นเพราะรัฐบาลต้องการให้สิทธิส.ว. 250คนร่วมพิจารณา เนื่องจากไม่มั่นใจเสียงสนับสนุนในสภาฯ ที่จะผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บริษัท บลูสโตน ครีเอชั่นส์ จำกัด ร่วมกับ สมาคมคนพิการภาคตะวันออก จัดกิจกรรม CSR ประจำปี 2567 มอบสิ่งของแก่คนพิการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี
2อุทยานฯ ร่วมมือปราบปราม การลักลอบขุดหาแร่ทองคำ
ปิดหีบเลือกตั้ง "นายก อบจ.สุรินทร์" เริ่มนับคะแนน รอลุ้นผล
ชาวบ้านแห่ส่องเลขเด็ดคึกคัก ในพิธีอัญเชิญ “เจ้าพ่อพระศรีนครเตาท้าวเธอ” เจ้าเมืองคนแรกของชาวอำเภอรัตนบุรี
"บิ๊กจ้าว" ลงดาบ "ผกก.สน.หนองค้างพลู" สั่งปลดออกจากราชการ ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง ม.157
สีกากียอมรับ "บิ๊กต่าย" ไม่หวั่นโดนบางฝ่ายบีบวางมาตรฐานแต่งตั้ง "ตร." "เอก อังสนานนท์" คือผู้ยืนยัน
"หลวงพี่น้ำฝน" แจงสั่งตามลูกศิษย์ ส่งตัวให้ตร. ยืดอกรับผิด ย้ำไม่สนับสนุนความรุนแรง เตือน "พระปีนเสา" ปากจะพาเดือดร้อน
"ศปช." ย้ำ "ภาคใต้" ฝนกระหน่ำต่อเนื่อง “ภูมิธรรม” กำชับเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
"ภรรยา-ลูกสาว" ของหมอบุญ เข้ามอบตัวกับตร. ตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกง กว่า 7.5 พันล้านบาท
“บิ๊กก้อง” สั่ง ปอศ.ส่งสำนวน ‘หมอบุญ’ ฉ้อโกงปชช.-หลอกลวงลงทุน ให้ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น