พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ บุคคลในตำนาน ที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทภายใต้ร่มเงาแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจ
โดยย้อนไป เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2560 ระหว่างที่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้เดินทางไปยังหอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อมอบรางวัลการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาค ประจำปี 2560 โดยได้พิจารณามอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงทุนการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการตำรวจ ทหารที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งการมอบทุนการศึกษาดังกล่าว ทางมูลนิธิฯ
พลเอกเปรม ได้กล่าวให้โอวาทกับผู้เข้าร่วมงานว่า เมื่อประมาณ 3 ปี ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จะสวรรคต พระองค์ท่านได้พระราชทานเงินให้ตนส่วนหนึ่งทรงรับสั่งว่า ข้อ 1 ให้ไปดูแลโรงเรียนที่เก่าชำรุดทรุดโทรมมากๆ ไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้ และ ข้อ 2 สำคัญมาก ท่านก็ทรงรับสั่งว่าให้ช่วยกันผลิตคนดี ไม่ต้องเน้นผลิตแต่คนเก่ง เพราะชาติบ้านเมืองของเราต้องการคนดีมากกว่าต้องการคนเก่ง เพราะว่าคนเก่งอาจจะเป็นคนไม่ดีก็ได้ ตนก็รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาปรึกษากับเพื่อนฝูงที่คุ้นเคยและรู้จักดีในแวดวงการศึกษา
นอกจากนี้ท่านยังเน้นเรื่องหนึ่งว่า การปลูกฝังเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม เป็นสิ่งที่เราจะต้องมอบให้กับเด็กให้ได้ พร้อมกับอีกข้อหนึ่งท่านรับสั่งว่า ขอให้ไปพูดกับเด็กนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา เช่นเด็กมหาวิทยาลัยราชภัฎ เป็นต้น ขอให้เด็กเหล่านั้นกลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาเดิมอย่างน้อยสัก 2 ปี เพราะเราต้องเรียนมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาได้เรียนมาเพื่อรับใช้ประชาชนในบ้านของตนเอง
สิ่งเหล่านี้ที่ตนขอพระราชทานอันเชิญมาบอกกับพวกคุณที่เป็นผู้ใหญ่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำ ส่วนเด็กเล็กๆ อาจจะยังไม่เข้าใจก็ขอให้ครูช่วยชี้แจงให้เด็กเข้าใจว่าคนดีคือย่างไร คนเก่งคืออย่างไร ทำไมเราต้องการคนดีมากกว่าต้องการคนเก่ง ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้มูลนิธิฯ เราดูแลกันอยู่นี้ได้ทำทุกอย่างแล้ว แต่เราควรจะหาวิธีที่จะให้ครูบาอาจารย์นักเรียนทั้งหลายเชิญพระราชกระแสไปประพฤติปฎิบัติตามที่ทรงรับสั่งให้ได้ พลเอกเปรมกล่าวตอนหนึ่ง