จากการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่เริ่มต้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม บริเวณแยกดินแดง และเริ่มบานปลาย กลายเป็นเหตุรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นับจาก วันที่ 7 ส.ค. เป็นต้นมา
โดย กลุ่มทะลุแก๊ซ มีคำถามชวนสงสัย ใช่การชุมนุมโดยปกติ หรือไม่? ไม่มีการปราศรัย ไม่มีการเคลื่อนขบวน แค่มารวมตัวกัน แล้วก็เปิดฉากใส่เจ้าหน้าที่ทันที และยังมีการเผาป้อม เผารถตำรวจ ทุบทำลายทรัพย์สินราชการ หนักสุด ก็คือ ยิงไปป์บอมบ์ และยิงปืนกระสุนจริง ใส่เจ้าหน้าที่
ต่อมา พบว่า เพจ ทะลุแก๊ซ – Thalugaz ได้โพสต์ข้อความ เปิดระดมทุน ขายเสื้อทะลุแก๊ซ เพื่อเงินรวบรวมเงิน ไปจัดการชุมนุมใหญ่อย่างเป็นทางการ กลางเดือนตุลาคมนี้ โดยระบุข้อความ ไว้ว่า
#ทะลุเเก๊ซกระจายข่าว #Thalugaz เร็ว ๆ นี้ เราจะทำของออกมาขาย และเปิดระดมทุน เพื่อจัดม็อบ อย่างเป็นทางการ กลางเดือนตุลาที่จะมาถึง ขอให้สหายผู้ร่วมอุดมการณ์ ช่วยซัพพอร์ตเราด้วย เมื่อ รัฐบาลไม่รับฟังเสียงประชาชน ถึงเวลาเเล้ว ที่เราต้องไป เคาะประตูบ้านพวกมัน
โดยบัญชีที่เปิดระดมทุนดังกล่าว ปรากฏชื่อ นายธนายุทธ ณ อยุธยา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของพวกกลุ่มสามนิ้ว ในนาม “บุ๊ค แร็ปเปอร์” วง Eleven finger วัย 20 ปี แม้ต่อมา ไม่กี่นาทีจากนั้น ได้มีการลบชื่อ เจ้าของบัญชีออกไปในทันที
สำหรับ ประวัติ ของ บุ๊ค แร็ปเปอร์ นั้น เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ปี 63 เคยขึ้น ร้องเพลงแร็ปการเมือง ในการชุมนุม เยาวชนปลดแอก ต่อมา ถูกจับกุม ข้อหา เข้าร่วมชุมนุมกับม็อบประชาชนปลดแอก อีกทั้ง เมื่อ
วันที่ 27 พ.ค. ปี 61 “บุ๊ค” เคยขึ้นเวที โชว์เพลงแร็ปที่แต่งขึ้นมาเองเป็นการเฉพาะ ในงานประชุมจัดตั้ง พรรคอนาคตใหม่ ด้วย
ทั้งนี้เอง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในงาน รำลึก 6 ตุลา 2519 เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้กล่าวถึง กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุแก๊ส โดยมีใจความบางช่วงบางตอน ระบุไว้ว่า
จำกันได้ไหมว่า หลังจาก 6 ตุลาคม 2519 เกิดอะไรขึ้น รัฐปราบปรามประชาชน นิสิต นักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ยุคนั้น หนีเข้าป่า ไปจับอาวุธ จับปืนร่วมกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เพื่อต่อสู้กับรัฐไทย เราไม่เคยพยายามที่จะดึงเขาเข้ามา … สิ่งที่เกิดขึ้นที่ ดินแดง คือ การผลักเขาออกไป เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจาก 6 ตุลาคม 2519 คุณผลักเขาออก ก็เกิดความแตกแยกของสังคม ความสูญเสียของสังคม พลังที่จะเอามาช่วยกันสร้างชาติ สร้างสังคมมันหายไปเลย พวกคุณไม่ต้อนรับเขา ผลักเขาออกไป แล้วสุดท้าย กว่าที่สังคมจะกลับมารวมกัน ต้องส่งเสียงไปถึงชนชั้นนำ กลุ่มอภิสิทธิชน ที่ถือครองอำนาจอยู่ว่า โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว จิตวิญญาณของยุคสมัย มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมมองเห็นแต่ความขัดแย้งที่แหลมคม และรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้กล่าวถึงกลุ่มทะลุแก๊ซ ว่า ปรากฏการณ์ “ทะลุแก๊ส” เป็นปรากฏการณ์ที่ผุดขึ้นมาเอง ปราศจากองค์กรจัดตั้ง หรือ ปลุกระดม นี่คือปรากฏการณ์ในลักษณะ “ตอบโต้กับสิ่งที่รัฐกระทำมาตลอดขวบปีที่ผ่านมา นี่คือปรากฏการณ์ในลักษณะ มีแนวโน้มไปสู่”การลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ” เรามักมองเหตุการณ์ที่ดินแดงว่า เป็นการก่อจลาจลของวัยรุ่นเด็กแว้น คึกคะนอง หรือ riot แต่นั่นคือ การมองจากภาพการกระทำภายนอก มองจาก action การปาพลุ ดอกไม้ไฟ การขว้างปาสิ่งของ การขี่มอเตอร์ไซค์ เข้าปฏิบัติการ แต่ถ้าเรามองลงไปให้ลึกกว่านั้น riot หรือ การก่อจลาจล แบบนี้ อาจมีลักษณะเป็น “การลุกขึ้นสู้” ด้วย การแสดงออกของ “ทะลุแก๊ซ” อาจกลายเป็นการลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ ดังนั้น กลุ่มที่อ้างว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด ต้องช่วยกันทำให้ขบวนการรอบนี้ เดินหน้าสู้ต่อไปได้ อย่าปล่อยให้เยาวชนสู้ตามลำพัง
สอดรับกับ กรณีที่ เยาวชน คนไหนถูกจับกุมตัว ก็จะมี ทนายความของ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่พร้อม 24 ชั่วโมง มาประกันตัวในทันที อีกทั้ง ยังเห็นว่า มี ส.ส. ของพรรคก้าวไกล ที่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค , นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือแม้กระทั่ง เจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ โผล่มาให้กำลังใจ และยังเคยบ่นว่า ได้ใช้เงินเดือนประกันตัวม็อบไปเกือบหมดแล้ว….
ทั้งนี้ ย้อนคำกล่าวของ ทั้ง ธนาธร และ ปิยบุตร ชวนตั้งคำถามว่า “บุ๊ค แร็ปเปอร์” ที่เปิดบัญชีระดมทุน รับเงินบริจาค ไปจัดชุมนุมใหญ่ นั้น เป็นแกนนำของกลุ่มทะลุแก๊ซหรือไม่ และใคร.. เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หรือจะมีความเชื่อมโยงกับ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่กลายร่างมาเป็น “ก้าวไกล” และ ก้าวหน้า ที่มี ธนาธร และ ปิยบุตร เป็นแกนนำ และดูเหมือนว่า พักหลัง ธนาธร ปิยบุตร ต่างก็ออกมาแสดงท่าที สนับสนุนกลุ่มทะลุแก๊ซ มากกว่าม็อบสามนิ้วที่แกนนำติดคุกกันหมดแล้ว
ที่สำคัญ คงต้องจับตามอง คำพูดของ “ปิยบุตร” ถึงขั้น ยกให้เป็น “มวลชน” ที่ออกมา ลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ” และ อย่าปล่อยให้เยาวชน ต่อสู้ตามลำพังนั้น หมายถึงอะไร…!?
