ศบค.เล็งปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 24 จว. เคอร์ฟิว 5 ทุ่มถึงตี 3

ศบค.เล็งปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 24 จว.พร้อมขยับเคอร์ฟิว 5 ทุ่มถึงตี 3 มีผล 16 ต.ค. เคาะ 10 ประเทศเสี่ยงต่ำ รับนักท่องเที่ยวเข้าไทยโดยไม่กักตัว ส่วนสถานบันเทิงเปิดดื่มกิน 1 ธ.ค.

วันที่ 13 ต.ค.2564 มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันที่ 14 ต.ค.เวลา 10.00น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือ (ศบค.) จะเป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 หลังจากผ่อนคลายและปรับมาตรการกิจการกิจกรรมต่างๆมาครบ 14 วัน ทั้งนี้ ศปก.ศบค. จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาปรับระดับสีใหม่ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือสีแดงเข้ม เหลือจำนวน 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง จำนวน 29 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมหรือสีส้ม จำนวน 24 จังหวัด

นอกจากนี้ จะเสนอให้ที่ประชุมศบค. พิจารณาการเดินทางออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว โดยเสนอให้ขยับเวลาจากเดิม 22.00น.-04.00น. ของวันรุ่งขึ้น เป็น 23.00น. – 03.00น. ของวันรุ่งขึ้น ไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 – 31 ต.ค. นี้ ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้มจะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการคือ ให้จัดการประชุมรวมถึงงานประเภณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้

โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี โดยให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า200 คน พื้นที่เฝ้าระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.

นอกจากนี้จะเสนอให้พิจารณาแนวทางการเปิดประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศมีความเสี่ยงต่ำ 10 ประเทศแบบไม่ต้องกักตัว โดยจะพิจารณาปัจจัยหลักคือ จำนวนผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค.พิจารณาสูตรฉีดวัคซีนแบบไขว้ คือฉีดแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วย ไฟเซอร์ นอกจากนี้จะมีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการแนวทางการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พ.ย. รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนที่จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงให้ดื่มกินได้วันที่ 1 ธ.ค. โดยข้อเสนอจะต้องรอมติที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันที่ 14 ต.ค.นี้

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บราซิลจัดประชุม”บริกส์”ถกสงครามภาษีทรัมป์
สเปน-โปรตุเกสไฟฟ้ากลับมาแล้ว 99 %
ให้เลือด = ให้ชีวิต เบื้องหลังทุกหยดโลหิต…คือหัวใจจิตอาสา CPF ทั่วไทย
"นฤมล" ร่วมประชุมนายกฯ เกาะติดค้าชายแดน แผนพัฒนาศูนย์ขนส่ง One Stop Service เพิ่มสะดวกนำสินค้าเข้า-ออก
"โฆษก กอ.รมน." แจงทำหน้าที่ปกป้องสถาบันชาติ ใช้อำนาจตามกม.แจ้งความ "ดร.พอล" ผิดอาญา 112
MEA ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารร่วมกับมูลนิธิช่างไทยใจอาสา เสริมความปลอดภัยชุมชน พร้อมยกระดับมาตรฐานการดูแลอาคารหลังแผ่นดินไหว
“สหพัฒนพิบูล” จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 2.40 บาท
ครม.ไฟเขียวงบ 355 ล้าน เร่งแก้ไขน้ำท่วม-ปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน ‘แม่น้ำปิง-แม่น้ำกก’ ให้แก่กองทัพไทย
"ปานเทพ" สวนปาก "แซน" ขู่ฟ้องกลับ แย้มหลัง 23 พ.ค. ดีเอสไอพร้อมรับเป็นคดีพิเศษ ลุยพิสูจน์เหตุจริง ๆ "แตงโม" เสียชีวิต
“บางน้ำเปรี้ยว” ท้องฟ้าวิปริต “ตา 73” ช็อก! บ้านถล่มต่อหน้า-ทำได้แค่ยืนมอง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น