รวบแล้ว “ซ้อปลา”คารีสอร์ท เจ้าตัวรับสารภาพ

ผบช.ก. เผยรวบ “ซ้อปลา” ก่อนมอบตัว เกรงหลบหนี มีการบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง หลอกลวงผู้เสียหายกว่า 200 คน ลงทุนแชร์ออนไลน์และแชร์ทองมูลค่าความเสียหายราว 60 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ตุลาคมที่ ที่กองบังคับการปราบปรามการ (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เดินทางเข้าสอบปากคำนางสาวกมลวรรณ ปิ่นทองพันธ์ อายุ 25 ปี หรือ ซ้อปลา แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ “ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จากกรณีที่ได้หลอกผู้เสียหายกว่า 200 คน ลงทุนแชร์ออนไลน์และแชร์ทองมูลค่าความเสียหายราว 60 ล้านบาท หลังนำหมายศาลจับกุมตัวได้ภายในเคียงรัก รีสอร์ท ห้องดี221 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม่ ชุมพร เมื่อช่วงเวลา 02.30 น. ที่ผ่านมา และนำตัวมายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)

จากการสอบปากคำเบื้องต้น พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยก่อหน้านี้ผู้ต้องหาติดต่อว่าจะมอบตัวแต่มีการบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง ชุดสืบสวนเกรงว่าจะหลบหนีคดีจึงนำหมายศาลเข้าจับกุมตัวได้เมื่อคืนนี้วันที่ 14 ตุลาคม เวลา 02.00 น.

พฤติการณ์เเห่งคดี โดยผู้ต้องหาเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2561 จากการหลอกขายทอง ก่อนจะมาปี 2563 ใช้วิธีชักชวนผู้เสียหายโดยให้หลอกนำเงินมาลงทุนในบ้านแชร์ออมเงิน โดยเสนอว่าจะให้ดอกเบี้ยร้อยละ 20 หรือคิดเป็น 240% ของการให้ดอกเบี้ยของธนาคาร จนเกิดแชร์ขยายวงออกไปเรื่อยๆ กระทั่งไม่สามารถนำเงินไปจ่ายให้กับผู้เสียหายได้ทำให้ล้มแชร์ ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีเงินเก็บไว้ที่บ้านบางส่วน เปลี่ยนเป็นทองบางส่วน ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสภาพโดยอ้างว่าตั้งใจทำไม่ตั้งใจเบี้ยวลูกค้า ซึ่งก็เท่ากับเป็นการยอมรับในข้อเท็จจริง

 

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายกว่า 200 คนทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และต่างจังหวัด เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า ถูกซ้อปลาอมเงินจากการลงทุนแชร์ออนไลน์และแชร์ทองมูลค่าความเสียหายราว 60 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักใน ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่กลับพบเพียงนายจตุพล ปิ่นทองพันธ์ อายุ 38 ปี สามีของซ้อปลาอยู่ในบ้าน จึงควบคุมตัวไดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ผบช.ก. กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่ ซ้อปลาออกมาร้องเรียนว่าถูกตำรวจรีดเงิน 5 ล้านแลกกับการปล่อยตัว หลังถูกตำรวจเข้าตรวจค้นที่บ้านพัก เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามฝากถึงพี่น้องประชาชนที่หากพบเจอลักษณะการโฆษณาชวนเชื่อลักษณะให้ดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ขอให้คิดไว้เลยว่าอาจจะเป็นการหลอกลวงเนื่องจากว่าธนาคารปกติยังให้ดอกเบี้ยสูงได้เพียงปีละ 2% จึงไม่มีที่ใดที่จะมีการให้ดอกเบี้ยได้สูงกว่าและการที่ดอกเบี้ยสูงถึง 240%ย่อมไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากพบเห็นพฤติการณ์ในลักษณะแบบนี้หรือตกเป็นผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการโทรศัพท์ส่วนกลางได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เม็กซิโก-แคนาดา-จีนประกาศสงครามการค้ากับสหรัฐ
ทรัมป์ไฟเขียวกำแพงภาษีแคนาดา เม็กซิโกและจีนแล้ว
สรุปผล 47 นายกอบจ. "เพื่อไทย" คว้าชัย 10 ที่นั่ง "ภูมิใจไทย" 9 สู้สูสี "ปชน." ได้แค่ 1 ที่
ผู้โดยสารดับยกลำจากเหตุเครื่องบินกู้ชีพตกที่สหรัฐ
ทบ.ร่วม สตช. ประสานเมียนมา ช่วยเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวฮ่องกง 1 ราย
พรรคปชน.ช้ำ! ส่งเลือกตั้งนายกอบจ.17 จังหวัด คว้าชัยแค่ลำพูน
รวมไทยสร้างชาติ คว้าชัยนายกอบจ. 5 จังหวัด
"นิด้าโพล" เผยคนกรุงฯส่วนใหญ่ ชี้ขึ้นฟรีรถไฟฟ้า-เมล์ขสมก.ลดฝุ่นไม่ได้ผล มาตรการรัฐขาดประสิทธิภาพ
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ถามซุปเปอร์แมน เหนื่อยฟรีไหม ผลเลือกตั้งอบจ. "แดง-ส้ม" ไม่ใช่อย่างฝัน
ตร.รวบหนุ่มรุ่นพี่ คาบ้านพัก หลังหลอกรุ่นน้องวัย 17 ปี ออกทริปบางแสน ก่อนพาไปข่มขืน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น