วันนี้(14ต.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะรองประธานคณะกรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมกมธ.ฯ วาระพิจารณา เรื่องขอความเป็นธรรมกรณีพระสังฆาธิการถูกถอดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด จำนวน 3 รูป ได้แก่ พระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี / พระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินฺธโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) / และ พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโน) อดีตเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า มีตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และ ฝ่ายเลขาธิการของมหาเถรสมาคม (มส.) เข้าชี้แจง
โดยสาระสำคัญ คือ การถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป นั้น ได้ดำเนินการตามกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561 ในหมวด 3 ว่าด้วยการปกครองคณะสงฆ์ มาตรา 20/2 วรรคแรกกำหนดให้การแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาค หากมีพระราชดำริเป็นประการใด ให้ดำเนินการตามพระราชดำรินั้น ซึ่งโยงถึงกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 พ.ศ.2541 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 พ.ศ.2563 ข้อ 5/1 (2) ซึ่งกำหนดให้การถอดถอน เจ้าคณะจังหวัดให้เสนอต่อมหาเถรสมาคมพิจารณาทุกกรณี จากนั้นให้สมเด็จพระสังฆราช ฐานะประธานกรรมการเถรสมาคมเสนอไปยังราชเลขานุการในพระองค์ เพื่อนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เมื่อมีพระราชดำริเป็นประการใด ให้มหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบโดยอนุวัติตามพระราชดำรินั้น แล้วจึงดำเนินการต่อไปได้ และให้เลขาธิการมหาเถรสมาคมรายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
โดยนายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ทางกมธ.ฯ ได้สอบถามถึงเหตุผลของการดำเนินการถอดถอนนั้น ผู้ที่ชี้แจงระบุว่าไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องทางปกครองของสงฆ์ และเป็นไปตามอำนาจของเจ้าคณะใหญ่ที่พิจารณา เบื้องต้นคาดว่ามีเรื่องร้องเรียนและพิจารณาเห็นว่าควรถอดถอน เจ้าคณะใหญ่จึงเเสนอให้มส. พิจารณา และตามขั้นตอนของกฎหมายและกฎของมหาเถรสมาคม ซึ่งการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในชั้นกมธ.ฯ ถือว่ายุติเรื่องแล้ว ส่วนกรณีที่ลูกศิษย์ของเจ้าคณะจังหวัดที่ถูกถอดถอนยื่นของให้กมธ. ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะะมีข้อสงสัยนั้น ไม่อยู่ในอำนาจของกมธ.ฯ
ซึ่งการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ตามกฎหมายคณะสงฆ์และกฎของมหาเถรสมาคม ที่เป็นกฎการปกครองของคณะสงฆ์นั้น จะมีผลแค่ถอดถอนเฉพาะตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเท่านั้น แต่สมศักดิ์ ความเป็นภิกษุ เจ้าอาวาสยังคงสถานะเดิม ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าก่อนการถอดถอนควรสอบอธิกรณ์ให้สิ้นสงสัย ผมมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะการถอดถอนจากเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นตำแหน่งทางปกครองของสงฆ์ ไม่ใช่เรื่องธรรมวินัย การประพฤติผิดพระธรรมวินัย หรือวินัยของสงฆ์
ด้านรองประธานกมธ.ศาสนาฯ คนที่สอง ระบุด้วยว่า ตนสนับสนุนกฎของคณะสงฆ์และกฎของมส. ต่อเรื่องดังกล่าว เพราะมองว่าดีต่อการปกครองคณะสงฆ์ที่จะสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยและต้องระวัง ซึ่งในอดีตนั้น พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ระบุการถอดถอนไว้ แต่ไม่ชัดเจนเหมือนกับกฎหมายที่แก้ไขล่าสุด จึงถอดถอนไม่ได้ หากตามสายบังคับบัญชาเป็นพวกเดียวกัน อาจอุ้มกันไป จนทำให้ต้องมีการปฏิรูปพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ปี 2561 ทำให้เจ้าคณะจังหวัดต้องปฏิบัติหน้าที่ในกรอบความถูกต้อง หากทำไม่ถูกมีสิทธิ์พิจารณาถอดถอนได้