วันนี้ นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีวัคซีนซิโนแวคยังจำเป็นต้องใช้อีกหรือไม่ หลังมีวัคซีนตัวอื่นจำนวนมากแล้วว่า การฉีดซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และกระตุ้นด้วยแอสตราเซเนกา เข็ม 2 ยังใช้สูตรนี้เป็นสูตรหลักต่อไป เพราะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงและในเวลารวดเร็ว เนื่องจากหากเป็นแอสตราเซเนกา 2 เข็มต้องรอ 3 เดือน ส่วนเมื่อฉีดสูตรไขว้แล้วจำเป็นต้องกระตุ้นอีกหรือไม่ โดยหลักหากเวลาผ่านไป 3-6 เดือนภูมิอาจค่อยๆ ลดลง ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้ง ปัจจุบันยังไม่ต้องกังวล สำหรับคนฉีดซิโนแวค 2 เข็มไปแล้วเมื่อเดือน มีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขจะนับเวลา 6 เดือนจึงให้มาฉีดกระตุ้น
ส่วนกรณีที่อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิจารณาวัคซีนไขว้สูตรใหม่ ระหว่างแอสตราเซเนกากับไฟเซอร์นั้น นายแพทย์เฉวตสรร กล่าวว่า ทางวิชาการมีความมั่นใจ แต่ขอให้รอ ศบค.ประกาศว่าจะใช้สูตรไหน แล้วจะมีหนังสือสั่งการต่อไป ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามหลักวิชาการ ความเหมาะสมในการบริหารจัดการให้เกิดภูมิคุ้มกัน และให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาจะมีการกำหนดเป็นสูตรหลักสูตรหนึ่ง และสูตรที่สามารถใช้ได้กรณีมีความจำเป็น เนื่องจากประด็นทางสุขภาพ และเงื่อนไขทางปฏิบัติ เช่นประเทศที่จะเดินทาง ก็อาจจะขยายได้ กรณีพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีการจัดส่งไฟเซอร์ลงไป ก็จะใช้ฉีดเป็นไฟเซอร์ 2 เข็ม เพื่อรองรับสายพันธุ์ที่ระบาดด้วย หากเป็นแอสตราเซเนกาตามด้วยไฟเซอร์ทางวิชาการก็ทำได้ ในทางปฏิบัติคงมีชี้แจงลงไปในพื้นที่ อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจในทุกสูตรที่สามารถใช้ได้ ไม่ควรรอ เพราะสถานการณ์บางครั้ง การรออาจจะเกิดสายพันธุ์ที่แตกต่างจนมีความรุนแรง และอาจเสียประโยชน์ได้
สำหรับการฉีดวัคซีนนักเรียนที่ผ่านมมา ในระบบที่รายงานเข้ามายังไม่มีอะไรน่ากังวล ระบบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ต้องมีการตรวจสอบเก็บข้อมูลในพื้นที่ บางทีไม่ได้เร็ววันต่อวัน จะทยอยมา แต่เท่าที่ฉีดมายังไม่มีข้อกังวล ส่วนเข็ม 2 ในกลุ่มนักเรียนชายนั้น คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนจะประชุม น่าจะมีข้อตัดสินวันที่ 20 ตุลาคมนี้ โดยจะพิจารณาข้อมูลที่มีการรวบรวมการฉีดเข็ม 1 ในเด็กชาย ซึ่งข้อสรุปต้องออกมาก่อนวันนัดฉีดเข็ม 2 แน่นอน