เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กดังนี้ “#รื้อการศึกษาชาติ ผมอยากจะเล่าว่าที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักวิชาการด้านการศึกษา ที่ผมฟังแล้วผมokมาก เพราะเขาตกผลึกความคิดด้านนี้ และมีประสบการณ์จริงด้านการศึกษา ถ้าผมเปิดเผยชื่อ ลูกหลานคนดังๆในสังคม จะรู้จักชื่อเขาดี แต่เอาไว้ก่อนครับ เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อปัญหาของสังคมที่เกิดจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ บทสรุปก็คือเด็กเหล่านี้มีปัญหามาจากทั้งพ่อแม่ก็ไม่รู้ คุณครูก็ไม่เข้าใจ ทางออกของประเทศคงหนีไม่พ้นคือการให้การศึกษาที่ถูกต้อง ที่มีมาตรฐานจากคนที่มีความสามารถจริงๆ เพราะระบบการศึกษาที่ผ่านมา ได้สร้างแต่สิ่งที่อยากจะบอกว่า ไม่อายที่จะโทษฯ คนอื่น ไม่อายที่จะอิจฉาคนอื่น ไม่อายที่จะเรียกร้องอย่างเห็นแก่ตัว ไม่อายที่จะขาดสติ ใช้ความรุนแรง ฯ ไม่อาย ที่จะใช้อารมณ์ สนองความเห็นแก่ตัว ไม่อายที่เอาเปรียบ ฯ ไม่อาย ที่จะเอาแต่ง่าย ไม่อายที่จะกลัวลำบาก ไม่อายที่ตัวเอง อ่านน้อย เรียนน้อย ทำน้อย รู้น้อย ไม่อายที่จะใช้ชีวิต สนุกไปวันๆ ไม่อายที่จะเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว ไม่อายที่จะอยากรวย อยากกอบโกย เข้าตัว ไม่อายที่จะผิดศีลธรรม ไม่อาย ฯลฯ”
นพ.วรงค์ ระบุต่อว่า “สิ่งที่ผมชอบมาก ระหว่างแลกเปลี่ยนคือระบบการเรียนของเรา เอาแต่ตามเพื่อน พ่อแม่ หรือตามกระแส ไม่มี career test นั่นคือต้องให้เด็กรู้จักตนเองว่า เก่งอะไร ชอบอะไร รักอะไร สนุกกับอะไร และท้ายที่สุด ทำอะไรแล้วชีวิตจึงมีความสุข ควรจะเรียนสิ่งนั้น ผลที่เกิดขึ้นคือ เด็กก็ไม่รู้ เมื่อมาเจอครูก็ไม่รู้ และนับวันยิ่งไม่ได้เรื่อง อย่างที่เราเห็น มีทั้งชักธงดำ ธงแดง ชูสามนิ้ว ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ทำไปแล้ว ชีวิตจะดีขึ้นจริงหรือไม่ สุดท้ายสังคมจึงเป็นแบบที่เห็น ผมชอบคำพูดที่ว่า ถ้าเราจะแข่งกับโลก เราต้องเอามาตรฐานโลกมาตั้ง ที่เขากล้าพูดกับผม เพราะเขาประสพผลสำเร็จ ที่ส่งเด็กเข้า top universityของโลก ดังนั้นการศึกษาไทย จะรอดได้เราต้องกล้า ที่เอามาตรฐานโลกมาตั้ง และปรับเพื่อมุ่งสู่มาตรฐานโลก เราจบด้วยพันธะต่อกันว่า จะมาช่วยกันวางแผนปรับเปลี่ยน การศึกษาของชาติ แม้จะยาก และต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 12 ปี เราต้องกล้าที่จะเริ่มต้น เพราะนี่คืออนาคตที่ดีของประเทศครับ เราจะมาช่วยกันรื้อระบบการศึกษา เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา ในนามพรรคไทยภักดี เร็วๆนี้”