ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีมวลชนบางส่วนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ว่า การต่อต้านเป็นเรื่องการเมือง ที่มักจะมีกลุ่มต่อต้าน ตนมักจะพูดเสมอว่าหากเข้าสู่เวทีการเมือง ต้องยอมรับความคิดเห็นต่าง และนำสิ่งนั้นมาแก้ไขซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ
ซึ่งกรณีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหากคิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการอย่างนั้น เราก็ต้องนำมาศึกษา และได้สั่งการให้ไปศึกษาว่าเรื่องอะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปมองว่าคนที่เห็นต่างจะเป็นศัตรู
ส่วนจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้องนี่คือธรรมชาติของบ้านเมืองเรา เราจึงต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือคนวัยไหน นำมาศึกษาและแก้ไข
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ออกมาให้เห็น ในการลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี วานนี้(15 ต.ค.) คือเจ้าหน้าที่พยายามกีดกันประชาชนบางส่วนที่ต้องการเข้าถึงนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่เห็น แต่ถ้าตนเดินทางไปกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรามักจะพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันเหมือนยิ่งไปห้าม
ส่วนกรณีที่เคยพูดในที่ประชุมสมาชิกพรรคว่า ถ้าในพรรคไม่สามัคคีกันอาจทำให้แพ้พรรคก้าวไกลนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเคยพูดไปประมาณว่า ส.ส. พรรคพลังประชารัฐร้อยละ 99% เรารักกัน ตนยืนยันว่า เรารักกัน ซึ่งจะสังเกตได้เวลาเราทำอะไรจะทำเป็นทีม แท็กทีมกัน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ ต้องยึดหัวหน้าเป็นที่ตั้ง ทีมเวิร์คเราต้องไปด้วยกัน มีหลายคนที่ทำงานให้พรรค พลังประชารัฐมีเป้าหมายคือทำเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เพราะฉะนั้นศัตรูการเลือกตั้งทางการเมือง ไม่ใช่พลังประชารัฐด้วยกัน แต่ต้องมองว่าเราจะไปสู้กับศัตรูข้างหน้ากันอย่างไร ตนไม่ได้มองว่าพรรคก้าวไกลคือศัตรูทางการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง เพราะเมื่อลงสู่สนามเลือกตั้งนั้นคือเราออกสนามรบ ทำอย่างไรที่จะไปชนะใจชาวบ้าน ให้มากาพรรคพลังประชารัฐ เราเพียงเปรียบเปรยเฉยๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาพูดแบบนี้เหมือนเป็นการให้เครดิตพรรคก้าวไกลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า เราไม่ได้มองเป็นศัตรู เพราะเมื่อถึงสนามเลือกตั้ง นั่นคือสนามรบทางการเมือง เราจึงต้องมียุทธศาสตร์ และวิธีอย่างไรที่จะเอาชนะ เอาเสียงมาให้ได้
เมื่อถามย้ำว่า การที่ยกตัวอย่างพรรคก้าวไกลขึ้นมาแสดงว่าเขามีคะแนนนิยมที่ดีกว่าใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคการเมืองเวลาสู้กันในสนาม มีไม่กี่พรรค เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่จะสู้กันอย่างหนัก ตนไม่ได้มองว่าเป็นก้าวไกลพรรคเดียว