เนื่องด้วยในวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกๆ ปี ทางคณะรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญของชาติ สืบจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พสกนิกรชาวไทยจะได้แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างไม่เสื่อมคลาย และเพื่อร่วมแสดงความเคารพเทิดทูนต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ดังนั้น ในยุคของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ไปเป็นวันที่ 17 ตุลาคม นับจากวันที่ 17 ตุลาคม ปี 2560
ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา ตำรวจไทยได้แสดงถึงศักยภาพ ขอบเขตอำนาจหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการช่วยเหลือประชาชนอย่างกว้างขวางทั่วถึงในทุกๆ ปัญหาหน้างานอาชญากรรม ตอบโจทย์ความต้องการเหนือขีดระดับ หลายหน่วยงานมีความกระตือรือร้น ปฏิบัติหน้าที่เชิงรุกไม่เฉพาะในด้านพิทักษ์สันติราษฎร์ เพราะปัจจุบัน ยังขับเคลื่อนควบคู่ก้าวทันโลก ด้วยการนำเทคโนโลยียุค 4.0 ดึงโซเชียลมีเดียนำปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างภาพลักษณ์องค์กร ตอบสนองในการร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนโดยไม่รีรอ
เนื่องในวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันตำรวจไทย ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงพระกรุณาพระราชทานแก่ตำรวจทั่วประเทศใน “วารสารตำรวจ” ฉบับปฐมฤกษ์
“การเป็นตำรวจนั้นคงไม่ยากนัก แต่การเป็นตำรวจที่ดีนั้นยากมาก”…เพราะตำรวจต้องทำงานหนักและลำบากตรากตรำ งานปราบอธรรม อำนาจมืด และเหล่ามิจฉาชีพทั้งหลาย เป็นงานที่จะต้องใช้ความรู้ความสามารถเป็นพิเศษ เป็นงานที่สลับซับซ้อนซึ่งมีปัญหามากมาย และอันตรายรอบด้าน
ดังนั้น การที่จะเป็นตำรวจที่ดี จำเป็นอย่างยิ่งที่ตำรวจจะต้องเป็นผู้มีความแกร่งกล้าสามารถทั้งร่างกายและจิตใจ มีวิญญาณและอุดมการณ์ของตำรวจอย่างซื่อตรงและมั่นคง พร้อมเสมอที่จะสละความสุขส่วนตัว เพื่อสันติสุขของประชาชนอย่างจริงใจและบริสุทธิ์ใจ เพียบพร้อมด้วยขันติธรรมและคุณธรรม สามารถยับยั้งชั่งใจตนเองไม่ให้มัวเมาในอำนาจและลาภผลโดยมิชอบได้อย่างสิ้นเชิง เช่นนี้ย่อมถือว่าท่าน “เป็นตำรวจที่ดีของประชาชน” อย่างแท้จริง
ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ส่งสารถึงข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ เนื่องในโอกาสวันตำรวจ ประจำปี 2564 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีใจความว่า เพื่อนข้าราชการตำรวจที่รัก เนื่องในโอกาสวันตำรวจ ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง กระผมขอส่งความปรารถนาดีมายังเพื่อนข้าราชการตำรวจและครอบครัวทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้
ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งปีที่พวกเราต้องเผชิญกับการแก้ไขวิกฤติของชาติร่วมกันในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติจากโรคระบาด จากความแตกต่างทางความคิดของคนในชาติ หรือวิกฤติจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
อย่างไรก็ตาม วิกฤติเหล่านี้ก็เป็นโอกาสให้เราได้สำรวจตรวจสอบและพัฒนาปรับปรุงตัวเองในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสมความมุ่งหมายของทางราชการ
ภารกิจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คือ การพิทักษ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ การระงับทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตลอดจนการให้บริการต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเราพึงต้องระลึกไว้อยู่ตลอดเวลาว่าเป็นภาระหน้าที่อันทรงเกียรติ และจงภูมิใจกับเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้
ขอขอบคุณในสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ความทุ่มเท ความเสียสละ รวมทั้งความร่วมมือร่วมใจของพวกท่านทั้งหลาย ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ขอขอบคุณสมาชิกครอบครัวข้าราชการตำรวจที่อยู่เคียงข้างร่วมทุกข์ร่วมสุข เป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราได้สานต่ออุดมการณ์ของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไปด้วยกัน
ในโอกาสอันสำคัญนี้ กระผมขอกราบอาราธนาอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ตลอดจนเดชะพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลพระราชทานพร ให้พี่น้องข้าราชการตำรวจและครอบครัวทุกท่าน จงประสบแต่ความสุขความเจริญ มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ สมบูรณ์แข็งแรง แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา ร่วมกันตลอดไป