วันนี้ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้แม้จะประกาศผ่อนคลายมาตรการพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 23 จังหวัด ในเรื่องของการห้ามออกนอกเคหสถาน จากเดิมเวลา 22.00 – 04.00 น. มาเป็นเวลา 23.00 – 03.00 น. และห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สามารถเปิดได้ถึงเวลา 22.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนกลับเข้าสู่ชีวิตตามปกติมากขึ้น แต่ย้ำว่าต้องเป็นการใช้ชีวิตปกติแบบนิวนอร์มัล คือเข้มมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา โดยคิดว่าผู้คนรอบข้างรวมถึงตัวเราเองอาจเป็นผู้ติดเชื้อ จึงต้องใช้การป้องกันทุกวิถีทางเพื่อลดความเสี่ยงในการรับหรือแพร่เชื้อ ขณะที่สถานประกอบการต่างๆ ขอให้ใช้มาตรการ COVID Free Setting โดยมีการทำความสะอาด จัดระบบระบายอากาศ เว้นระยะห่าง พนักงานเข้ารับวัคซีนครบโดส และตรวจ ATK ทุก 7 วัน ส่วนผู้รับบริการมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจ ATK ซึ่งจะเป็นแนวทางในการอยู่ร่วมกับโรคโควิด 19 อย่างปลอดภัย
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการผ่อนคลายมากขึ้น กิจการต่างๆ ทยอยกลับมาเปิดได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจทำให้ประชาชนเริ่มวางใจ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรม ซึ่งเป็นความเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง ทุกคนต้องร่วมมือกันทำทุกมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ใช้ชุดตรวจ ATK คัดกรองความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อจำนวนมากและต้องปิดกิจการอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทุกคน
สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยวันนี้ ภาพรวมการติดเชื้อยังทรงตัว ต่างจังหวัดมีแนวโน้มการติดเชื้อสูงขึ้น ส่วน กทม.และปริมณฑล แนวโน้มการติดเชื้อลดลง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดการป่วยและเสียชีวิตลงได้คือการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ขณะนี้ได้เร่งจัดสรรวัคซีนไปจังหวัดต่างๆ เพื่อเร่งรัดการฉีดให้ได้ตามเป้าหมาย ร้อยละ 50 ของประชากร ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเตรียมรองรับการเปิดเมือง โดยเฉพาะจังหวัดนำร่องท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564