หลังจาก นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ เจ้าของฉายา ส.ส.เอลวิส ถูกพรรคเพื่อไทยมีมติขับให้พ้นจากพรรค จากสาเหตุการโหวตสวนมติพรรคในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงที่ผ่านมา เพราะเจ้าตัวไม่พอใจที่ถูกห้ามอภิปราย ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เจ้าตัวได้แถลงถึงจุดยืนและอนาคตทางการเมือง โดยเนื้อหาการแถลง เจ้าตัวได้ทิ้งบอมบ์ชุดใหญ่ใส่พรรคเพื่อไทยอีกชุด โดยนายศรัณวุฒิ ยืนยันตัวเองไม่ได้มีปัญหากับนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน แต่มีปัญหากับปีศาจในห้องแอร์ อักษรย่อ “พ” ซึ่งเป็นตัวแทนนนายทุนพรรค และเป็นแกนนำกลุ่มรังแค หรือกลุ่มขี้รังแค
ข้อมูลที่ ส.ส.เอลวิส แฉออกมาชุดใหญ่นั้น เริ่มจากกลุ่มรังแค คงเดาได้ไม่ยากว่า นายศรัณวุฒิคงหมายถึงกลุ่มแคร์ ของนายภูมิธรรม เวชยชัย หรือ เสี่ยอ้วน นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งเคยแยกตัวออกมาจากพรรคเพื่อไทยในช่วงกลางปี 63 เนื่องจากมีปัญหากับกลุ่มของหญิงหน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เวลานั้นกุมอำนาจในพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อหญิงหน่อยออกจากพรรคในปลายปี 63 เพื่อไปสร้างพรรคไทยสร้างไทย กลุ่มแคร์ก็กลับเข้ามามีบทบาทในพรรคอีกครั้ง เห็นได้จากการพูดคุยในคลับเฮ้าส์ของนายทักษิณ ที่กลุ่มแคร์จะเป็นทีมสัมภาษณ์เปิดประเด็นให้นายใหญ่วิจารณ์เรื่องต่างๆ
อีกประเด็นที่ นายศรัณวุฒิเปิดประเด็นคือ การแฉว่าตนเองมีปัญหากับปีศาจในห้องแอร์ชื่อย่ออักษร “พ” เป็นตัวแทนนายทุนพรรค ช่วงที่ยึดอำนาจหนีไปอยู่กับ “ชัย ฟันเหล็ก” ที่มาเก๊า โดยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบของทีมข่าวท็อปนิวส์ คาดว่า ปีศาจในห้องแอร์ชื่อ “พ” ของนายศรัณวุฒิ น่าจะหมายถึง “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ซึ่งว่ากันว่าเฮียเพ้งนั้นเองที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มแคร์ เห็นได้จากการที่ลูกชาย นายพริษฐ์ รักตพงศ์ไพศาล ก็เป็นหนึ่งในแกนนำของกลุ่มแคร์
สำหรับเฮียเพ้ง คอการเมืองรู้กันดีว่า เป็นขุนศึกที่รับใช้นายทักษิณมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2543 ที่นายทักษิณตั้งพรรคไทยรักไทย เฮียเพ้งก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการพรรค รับผิดชอบงานการเมืองของพรรคให้นายใหญ่ ทั้งดูการแล ส.ส.ไปจนถึงบรรดานักจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง บารมีของเฮียเพ้งในพรรคของนายใหญ่สะท้อนจากงานวันเกิด ที่แต่ละปี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยไปจนถึงแกนนำนปช.จะแห่ไปอวยพรวันเกิดเฮียเพ้งแน่นบ้านพักย่านเหม่งจ๋าย
ความภักดีที่รับใช้นายใหญ่อย่างเหนียวแน่น เฮียเพ้งเคยได้รับการตบรางวัลเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงเกรดเอ ปี 47 เป็น รมว.อุตสาหกรรม และในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ได้นั่ง รมว.พลังงาน ต่อมาในศึกเลือกตั้งปี 62 เฮียเพ้งถูกนายใหญ่มอบหมายให้ปลุกปั้นพรรคไทยรักษาชาติ ตามยุทธศาสตร์แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเสียก่อน จากนั้นเฮียเพ้งได้ประกาศวางมือทางการเมือง
แต่หลังจากก๊วนหญิงหน่อยออกจากเพื่อไทยไป ชื่อของเฮียเพ้งก็กลับมาโผล่ในหน้าสื่อ และเริ่มเข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง เมื่อปรากฎรายชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้กับพรรคเพื่อไทยถึง 2 ล้านบาท รองลงมาก็คือ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด หรือ “เจ๊แจ๋น” มือขวาของเฮียเพ้งที่บริจาค 1 ล้านบาท และในการปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เฮียเพ้งก็เป็นผู้ผลักดัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา มาเป็นแม้บ้านพรรค ล่าสุดจากคำสั่งของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยพื้นที่เมืองหลวงได้แบ่งความรับผิดชอบเป็น 6 โซน เฮียเพ้งได้รับมอบหมาย ให้ดูแลโซน 1 กรุงเทพชั้นใน ที่ประกอบไปด้วย เขตพระนคร ,ป้อมปราบศัตรูพ่าย, สัมพันธวงศ์, ดุสิต, ปทุมวัน, บางรัก สาทร, บางคอแหลม ,ยานนาวา, คลองเตย และวัฒนา
อย่างไรก็ตามแม้หน้าสื่อ เฮียเพ้ง จะดูแลแค่โซน 1 แต่คนในพรรครับรู้กันดีว่า เฮียเพ้ง คือแม่ทัพเมืองหลวง และจะเป็นขุนพลคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย คอยรับคำสั่งจากนายใหญ่ ในการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้า