“พิภพ” เผยอาการ “สมเกียรติ” ล่าสุด หลังผ่าตัดสมอง

พิภพ ธงไชย แจ้งข่าว “อ.สมเกียรติ” ผ่าตัดสมองเรียบร้อยแล้วเมื่อวาน แต่ซึ่งทำสำเร็จเมื่อวานนี้ แต่ยังอยู่ ICU และรอสังเกตอาการ

วันที่ 20 ต.ค. – นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า เมื่อนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพธม. มาถึงมือหมอ เมื่อตัดสินใจออกจาก รพ.กรุงเทพ โคราช เดินทางมา รพ.กรุงเทพ ในมหานคร ระยะทางยาวกว่า 200 กิโลเมตร มีลูกสาวคนเล็กนั่งเฝ้าอาการพ่อในรถมาด้วย ส่วน นางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ (หน่อย) ภรรยาและคนอื่น นั่งรถอีกคัน เมื่อมาถึงหมอตรวจอาการเสร็จ ก็บอกเล่ากับญาติให้กลับไปตัดสินใจทางเลือกเดิมที่หน่อยกังวลคือการผ่าตัดสมอง ด้วยว่าการสอดเส้นลวดนั้น สำเร็จแล้วต้องกินยาไปตลอดปี และต้องกลับมาตรวจซ้ำอีก ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายไม่น้อยจะตามมา

นายพิภพกล่าวว่า ถึงแม้ค่าใช้จ่ายในคราวนี้ คุณสมศักดิ์มิตรสหาย ผู้เป็นกัลยาณมิตร จะยินดีจ่ายให้ทั้งหมด หมอบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะผ่าตัดสมอง ด้วยการแตกของเส้นเลือดนั้นไม่ได้อยู่ที่แกนก้านสมอง(brain stem) ซึ่งไม่เป็นการยากลำบากที่จะรักษา ตรงกับความเห็นของหมอชูชัยที่ว่า “ไม่เข้าไปในก้านสมอง นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ถ้าไปแตกในก้านสมอง จะลำบากมาก” เลือดจากการแตกของเส้นเลือด กระจายตัวอยู่ส่วนหน้า ด้วยความว้าวุ่นใจมาหลายวันของหน่อย ที่จะตัดสินใจทางเลือกในการรักษาสามีตั้งแต่อยู่ที่ รพ.มหาราช จนย้ายมา รพ.กรุงเทพโคราช และมาจบที่ รพ.กรุงเทพในเมืองหลวง

นายภิภพกล่าวอีกว่า หน่อยกับลูกและญาติ ก็ยอมให้หมอผ่าตัดสมอง ที่หมอรับรองว่าปลอดภัย และดีกว่าการสอดเส้นลวด ความกังวลของหน่อยอีกเรื่องหนึ่งคือค่าใช้จ่าย ที่รู้ว่ามหาศาล เกินความสามารถทางการเงินของตัวเอง ที่เป็นเพียงข้าราชบำนาญ จนคุณปรีดารับรองว่า คุณสมศักดิ์ผู้เป็นกัลยาณมิตรของอ.สมเกียรติ จะดูแลให้ทั้งหมด โดยบอกผ่านประสารว่า “ถึงแม้จะมีโอกาสรอดเพียง ๑๐ % ก็ต้องทำ” คุณสมศักดิ์จึงขอให้ย้ายโรงพยาบาลให้หมอที่เชี่ยวชาญวินิจฉัยซ้ำอีกที การวินิจฉัยก็มาจบที่ผ่าตัดสมอง ซึ่งทำสำเร็จเมื่อวานนี้ แต่ต้องอยู่ใน ICU ต่อ 3 วัน และออกมาสังเกตอาการอีกราว 7 วัน

นายภิภพกล่าวต่อว่า เมื่อจบตรงนี้ หน่อยก็อยากพาสามีกลับบ้าน เพื่อจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด และลดค่าใช้จ่าย ด้วยหน่อยนั้นเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่ชอบออกปากขอใคร กินแต่เงินบำนาญ ในขณะที่สามีก็ต้องคดีแพ่ง ถูกตามเก็บทรัพย์ จากคดีห้าร้อยกว่าล้านบาท ร่วมกับแกนนำอีก 5 คน และยังมีคดีใหญ่รออยู่ข้างหน้าอีกหนึ่งคดี แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ทำให้สองสามีภรรยาท้อแท้ใจแต่อย่างใด หน่อยนั้นหลังจากสามีออกจากคุก ก็ทำไร่ทำสวนกันสองคนตายาย ตามนิสัยที่ถูกสร้างมาในวัยเด็ก ที่เป็นลูกชาวนา ส่วนลูกสาวสองคนก็ออกเรือนไปสร้างฐานะใหม่กันทั้งคู่ การอยู่คนเดียวในวันข้างหน้า ก็เป็นความกังวลกับหน่อยอยู่ไม่น้อย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น