กำลังเป็นประเด็นโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ ผู้กองฟาสุดสวย รวยปัญญาบ้าแต่กิน ได้โพสต์ภาพ นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ อดีตภิกษุชื่อดัง ที่กำลังทำพิธีอายุครบ 70 ปี โดยมีลูกศิษย์ที่เป็นประชาชนทั่วไป ไปจนถึงพระสงฆ์และแม่ชี เข้ามาร่วมแล้วกราบไหว้คับคั่ง ซึ่งโพสต์ดังกล่าว มีผู้ใช้เฟสบุ๊กเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยต่างวิพากษ์วิจารณ์บรรดาพระสงฆ์ที่มากราบไหวอดีตพระยันตระว่า การกระทำไม่เหมาะสม เป็นถึงพระสงฆ์แต่ไปกราบฆราวาสที่แต่งตัวเลียนแบบสงฆ์ สมควรถูกสึกจากการเป็นพระ เพราะทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของทีมข่าวท็อปนิวส์พบว่า อดีตพระยันตระ ซึ่งปกติได้ไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน โดยไปกักตัวที่โรงแรม ดิ ไอเดิล เซอร์วิส เรสซิเดนส์ จังหวัดปทุมธานี จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม จากนั้นวันที่ 9-14 ตุลาคม ได้เดินทางไปอาศัยที่สำนักป่าสุญญตารามเกริงกระเวีย , วันที่ 15-18 ตุลาคม ไปอยู่ที่บ้านเกิด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นวันที่ 19-22 ตุลาคม เจ้าตัวได้มาอยู่ที่เกพลิตาโพธิวิหาร จังหวัดสระแก้ว ซึ่งในวันที่ 23 ตุลาคม จะกลับมาพักที่บ้านคุณหญิงสิริกร จังหวัดปทุมธานี ก่อนที่วันที่ 27 ตุลาคม เจ้าตัวจะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา
สำหรับอดีตพระยันตระ เป็นชาวนครศรีธรรมราช ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษี อยู่หลายปีจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ในธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง ซึ่งขณะนั้นพระวินัยมักใช้คำแทนตัวว่า “พระยันตระ” ซึ่งแปลว่าผู้ไกลจากกิเลส เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักปฏิบัติธรรมชื่อดัง ทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย
ต่อมาในปี 2537 นายวินัยได้ถูกฟ้องร้องหลายข้อหา และถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุน กับนางจันทิมา หรือแม่ ด.ญ.กระต่าย ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้น จนในที่สุดนายวินัยได้ถูกมติมหาเถรสมาคม พิจารณาอธิกรณ์ปรับให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น ก่อนที่นายวินัยจะลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา จนครบ 20 ปี คดีจึงหมดอายุเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 จากนั้นนายวินัยก็ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเป็นระยะ