ตร.จับมือแบงก์ชาติ หาเส้นทางแก๊งดูดเงิน!

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้ร่วมประชุมการกำหนดมาตรการการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้กับประชาชน ร่วมกับ สมาคมธนาคารไทย, ผู้แทนธนาคารพาณิชย์ ,ผู้แทนศูนย์ประสานงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางการสืบสวนสอบสวน กรณีนำข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลทางการเงินไปใช้ในทางทุจริต ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก และ แนวทางป้องกันปราบปรามการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้บริการ

โดย พล.ต.ท.กรไชย เปิดเผยว่า ทาง สอท. ผนึกกำลังร่วมกับทางธนาคารเเห่งประเทศไทย(ธปท.)ในการหาตัวมิจฉาชีพเเละเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพเหล่านี้ว่ามีต้นทางหรือปลายทางอยู่ที่ใด พร้อมร่วมกำหนดมาตราการณ์รักษาความปลอดภัยทางการเงิน เบื้องต้นตอนนี้กำลังเร่งสืบสวนตามหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังเอาเงิน 130 ล้านบาทออกไปจากระบบ ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดหรืออาจได้ข้อมูลจากตลาดมืดไปหรือไม่ โดยผู้เสียหายมักจะถูกหลอกจากเว็บหรือลิงค์หรือการกรอกข้อมูลต่างๆ ซึ่งพวกมิจฉาชีพเหล่านี้จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า ต้องเช็คในทุกมิติ ซึ่งในส่วนนี้ต้องพึ่งพาธปท.ในการหาเส้นทางการเงิน ซึ่งสามารถเช็คได้ว่าปลายทางเเละต้นทางของเงินไปที่ไหน ซึ่งก็จะสามารถอำนวยความสะดวกเเละสามารถหาตัวมิจฉาชีพได้ในที่สุด ซึ่งมิจฉาชีพเหล่านี้อาจเป็นทั้งคนจริงเเละไซเบอร์บอตก็เป็นไปได้ ซึ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ระบบในไซเบอร์ โดยเชื่อว่ามิจฉาชีพเหล่านี้มีทั้งในเเละนอกประเทศ ฐานกระทำความผิดโดยส่วนใหญ่จะอยู่รอบๆประเทศไทยเพื่อให้ยากต่อการติดตาม เเต่เชื่อว่าคนทำยังอยู่ในไทยเพราะรู้ความคิดของคนไทยเป็นอย่างดี จึงสามารถโกงเงินจากคนไทยได้มากขนาดนี้ คาดว่ามิจฉาชีพชาวไทยนั้นเป็นตัวหลักในการโกงครั้งนี้

 

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า ทุกอย่างมีต้นทางเเละปลายทางจะต้องกระชากหน้ากากคนเหล่านี้มาให้ได้ ตอนนี้ทางธปท.ก็ได้เริ่มมีการตรวจสอบเเละเร่งคืนเงิน ซึ่งตัวเลขยังไม่สามารถเปิดเผยได้เเต่ประมาณการ 132 ล้านซึ่งก็จะคืนให้กับประชาชนผู้เสียหาย

ด้านนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางธปท.ได้มีการยกระดับการดูเเลบัญชีให้เข้มข้นมากขึ้นโดยจะมีการตรวจสอบบัญชีที่ต้องสงสัยต่างๆ ทั้งบัญชีต้นทางเเละปลายทางเพื่อเป็นการป้องกัน เชื่อว่าการกระทำความผิดครั้งนี้ไม่ใช่การเเฮกเกอร์ เเต่มิจฉาชีพได้ใช้ช่องว่างของการกระทำของบุคคลเช่นอาจไปผูกบัตรหรืออะไรก็ตามไว้กับเเอพ ซึ่งมิจฉาชีพก็อาจได้ข้อมูลจากส่วนนี้ไป ทั้งนี้ทางภาคธนาคารจะให้ความรู้กับประชาชนเพิ่มเติมในการรับมือกับภัยคุกคามออนไลน์ในรูปเเบบนี้ นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ประชาชนจะได้เงินคืนอย่างเเน่นอน โดยขณะนี้ตัวเลขของคนที่ทำเรื่องขอเงินคืนมีกว่า 17,500 คนเเล้ว ซึ่งตัวเลขอาจจะมาขึ้นเรื่อยๆ

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ที่ทราบคือปลายทางจะตรวจสอบได้ โดยจะดูว่าบัตรรูดจากไหน เเล้วจะดูหลักฐานประกอบ ซึ่งจะมีการตรวจสอบการทำธุรกรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยในไทยพื้นที่ สน.หนองแขม มีการโดนโกงมากที่สุดกว่า 700 ครั้ง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘ทนายไพศาล’ ยืนยันไม่ได้เป็นทนายให้ ‘ซินแสดัง’ขออีกฝ่ายอย่าเอารูปถ่ายคู่กันไปแอบอ้าง
งาน CIIE ครั้งที่ 7 เปิดฉากแล้วที่จีน
ตร.เมืองชล ตั้งด่านป้องปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดกลางดึก หนุ่มขนยาบ้า 3 แสนเม็ด ขับผ่านด่านแต่ไม่รอด สารภาพรับจ้างขนยา 3 หมื่น ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ถูกจับเสียก่อน
เลือกตั้งสหรัฐเปิดฉากขึ้นแล้ว
ศรชล.ภาค1 ร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในทะเลและชายหาดกับนักดำน้ำ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล (นพอ.) ณ เกาะยอ สัตหีบ
สว.จร.พัทยา วางแผนจัดทัพรับมืองานพลุนานาชาติ เตรียมที่จอดรถกว่า 30,000 คัน ไว้รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมออกมาตรการวินผีฟันค่าโดยสารราคาเกินจริง
ฉาว "ชาวบ้าน" ยันเห็น "หลวงตา" ล็อคห้องอยู่กับสีกา สองต่อสอง อ้างชวนไปนับขวด ก่อนเผ่นหนีไปอยู่อีกวัด
5 วิลล่าที่ดีที่สุด บนเกาะสมุย สำหรับการพักผ่อนสุดหรู
ผุดไอเดีย สุดเจ๋ง ติดตั้งนวัตกรรมประดิษฐ์รั้วไฟฟ้าแรงต่ำ 12 โวลท์ ป้องกันภัยช้างป่า
ปราบปราม เด็กแว้นอันธพาลครองเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น