วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ที่บ้านหมอปลา ต.โรงเข้ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้เดินทางมาบ้าน เพื่อเป็นตัวแทน นายประเสริฐ ทองปลาเค้าประธาน รพ.บางนา 1,2,5 นำเงิน1แสนบาท มามอบให้ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือน้องบาส เพื่อรักษาตัว และดำรงชีพ โดยมี ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายโนบิตะ และเสี่ยเปีย เข้าร่วมช่วยเหลือทางคดีของน้องบาส
ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า คดีนี้ฝั่งคู่กรณีนายบาส มีติดต่อมาเพื่อให้เป็นทนายความให้ แต่มองว่า ความชอบธรรมของกลุ่มวัยรุ่นหมดไปตั้งแต่ยกพวกไปล้อมบ้านนายบาส ซึ่งคดีนี้เหมือนคดี 7 โจ๋รุมนายสมเกียรติ คนพิการ แต่ต่างกันที่นายสมเกียรติเสียชีวิต แต่คดีนี้นายบาสตกเป็นผู้ต้องหา วันนี้จึงนำเงิน 100,000 บาทจากประธาน โรงพยาบาลบางนา สาขา 1 , สาขา 2 และสาขา 5 มามอบให้กับนายบาส ไว้ใช้ส่วนตัว พร้อมกับนำคำพิพากษาคดี 7 โจ๋ มามอบให้ทีมทนายไพศาล ยึดเป็นแนวทางการต่อสู้คดี เนื่องจากเห็น คลิปหลักฐานคดีบาส จึงรู้สึกว่าเหมือนคดี นายสมเกียรติ คนพิการ ตรงที่ เริ่มจากการกระทบกระทั่งและไม่พอใจกัน จนไปเคลียร์กันรอบนึงแล้ว และนายบาส กลับเข้าบ้าน ถือว่า เหตุการณ์ควรจบลงเท่านั้น เหมือนกรณีนายสมเกียรติ ก็เข้ากลับบ้าน แต่ฝั่งคู่กรณี ตามมาหาเรื่องต่อถึงหน้าบ้าน จึงเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายเกิดขึ้น ส่วนการที่บาสพกมีดออกไปด้วย ทนายอนันต์ชัยมองว่า ไม่ได้เป็นการพกพาอาวุธมีดโดยไม่มีเหตุอันควร แต่พกออกไปเพื่อป้องกันตัว และแน่นอนว่า หากบาสไม่มีอาวุธออกไปด้วยจะต้องเป็นบาสที่เสียชีวิต ซึ่งแนวทางของบาส คิดว่าสู้ได้ในประเด็น บันดาลโทสะ ส่วนจะเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตำรวจต้องรีบสอบพยานให้เสร็จสิ้นไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ สำหรับทีมทนายความที่เข้ามาช่วยคดีนายบาสตอนนี้ มีตัวหลัก คือ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ , ทนายกฤษดา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ , และทนายพิพัฒน์ รำจวน ส่วนทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เป็นที่ปรึกษาให้กับคดีนี้
บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. เพชรบุรี