นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความสำเร็จอีกขั้นของอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) ในมหกรรม World Expo 2020 Dubai ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งในช่วง 10 วันแรก (นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64) มีผู้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมกว่า 63,371 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของผู้เข้าร่วมงาน และล่าสุดมียอดผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 100,000 คน ภายในช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์ที่เริ่มจัดแสดงจนถึงวันที่ 21 ต.ค. 64
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แขกผู้มีเกียรติระดับสูงจากประเทศต่าง ๆ ทั้งไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เจ้าภาพ และประเทศที่เข้าร่วมจัดงาน ตลอดจนผู้เข้าเยี่ยมชมต่างชื่นชมและประทับใจต่ออาคารแสดงประเทศไทย โดยเฉพาะเนื้อหาการนำเสนอในห้องนิทรรศการผ่านการแสดงภาพยนตร์แอนิเมชั่น อาหารไทย และความน่ารักของมาสคอตตัวแทนประเทศไทย “น้องรักและน้องมะลิ” ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมความเป็นไทยที่สามารถสื่อสารให้ชาวต่างชาติสัมผัสและเข้าถึงได้ง่าย พร้อมสอดแทรกเทคโนโลยี Health Service รวมถึงเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งจะสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมของไทยให้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยผู้ที่เข้าร่วม Thailand pavilion ส่วนหนึ่งกล่าวว่า “รู้สึกประทับใจและทึ่งกับศาลาไทยเป็นอย่างมาก สิ่งที่ผู้เข้าชมประทับใจคือการเล่าเรื่องของประเทศไทย ประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงเรื่องราวในปัจจุบัน รวมถึงนวัตกรรมและการพัฒนาต่างๆ ศาลาไทยทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจริง ๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงาม”
นายธนกร กล่าวว่า มหกรรม World Expo 2020 Dubai จะจัดต่อเนื่องถึงวันที่ 31 มี.ค. 65 ซึ่งทางคณะผู้จัดงาน World Expo 2020 Dubai เชื่อมั่นว่า ช่วงเดือน พ.ย. 64 – มี.ค. 65 ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของเมืองดูไบ ประกอบกับการผ่อนคลายข้อกำหนดสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ จะทำให้ยอดผู้เข้าเยี่ยมชมงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระแสตอบรับดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสนใจของนานาประเทศทั่วโลกที่มีต่อไทยได้เป็นอย่างดี เป็นการนำเสนอความเป็นไทยสู่สายตานานาชาติ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยนวัตกรรม โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
