วันที่ 21 ต.ค.64 เวลา 20.45น. ร.ต.ท.เจริญทรัพย์ โพธิ์พระ ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านจำหน่วยวัสดุก่อสร้าง ชื่อห้าง ฮ.โฮมพลัส ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายห้วยชินสีห์-ทุ่งหลวง เลขที่ 131 หมู่ 8 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลห้วยชินสีห์ เข้าไปทำการฉีดน้ำดับเพลิง ก่อนจะรายงานให้ พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้รับทราบและเดินทางไปตรวจสอบ
โดยพบว่าไฟได้ลุกไหม้ภายในโกดังขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของห้าง ซึ่งภายในนั้นเก็บสต๊อกสียี่ห้อต่างๆ ทินเนอร์ รวมทั้งอุปกรณ์ก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องประสานขอรถดับเพลิงจากต่างพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมกว่า 50 คัน และรถโฟมมาทำการฉีดดับไฟ ส่วนชาวบ้านที่อยู่บริเวณห้องเช่าด้านข้างห้าง ซึ่งมีทั้งที่เช่าอยู่อาศัยและเปิดเป็นร้านซ่อมรถ ขายแบตเตอรี่รถยนต์ ต่างพากันขนข้าวของออกมาจากบ้านเพื่อหนีไฟกันอย่างโกลาหล
ทั้งนี้ โกดังหลังที่เกิดเพลิงไหม้นั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงปูนทึบทำให้รถดับเพลิงหลายคันไม่สามารถเข้าไปถึงด้านในที่เกิดเหตุได้ แม้จะอ้อมไปด้านข้างและด้านหลัง ทำให้เป็นปัญหาต่อการดับเพลิงซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่เพลิงกำลังลุกโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามระดมฉีดน้ำ และต้องทุบกระจกด้านหน้าร้านทั้งหมดเพื่อระบายควันไฟออกมา และระดมฉีดน้ำเนื่องจากหากปล่อยให้ไฟไหม้นานหวั่นว่าโครงสร้างของโกดังนั้นจะอ่อนตัวเพราะความร้อนและ
ยุบลงมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการดับไฟนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องคอยฉีดน้ำและโฟม เลี้ยงอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟโหมลุกขึ้นมาอีก
จากการสอบถาม น.ส.วันวิสาห์ ปูรณวัฒนกุล อายุ 34 ปี ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของห้าง ฮ.โฮมพลัส บอกว่า ด้านในนั้นเป็นโกดังขนาดใหญ่ เป็นที่สำหรับเก็บสต๊อกสินค้าหลายชนิด ในช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ด้านใน เนื่องจากห้างปิดแล้ว มีแต่บ้านพักคนงานที่อยู่ด้านข้างกำแพงของโรงงาน ซึ่งเห็นควันไฟลอยออกมาจากตัวโกดัง จึงได้โทร.ไปแจ้งทางเจ้าของห้าง และทางเจ้าของห้างโทร.มาบอกให้ตนแจ้งรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟ แต่เนื่องจากด้านในมีแต่สินค้าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และเป็นสินค้าที่ไวไฟ ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร
เบื้องต้น พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ได้สั่งการให้กันพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตรายห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหาย คาดว่าความเสียหายเบื้องต้นเกิน 10 ล้านบาท