ในเฟซบุ๊ก กนก รัตน์วงศ์สกุล โพสต์ข้อความระบุว่า ดาราฝรั่งชอบเมืองไทย
ตอนที่ “มาร์ลอน บรันโด” ได้รางวัลคุ๊กตาทองตัวที่ 2 จากภาพยนตร์เรื่อง The Godfather เขาไม่ขึ้นไปรับรางวัลเอง แต่ส่งนักแสดงหญิงที่มีเชื้อสายอินเดียแดงขึ้นไปรับแทน แล้วปล่อยให้เธอพูดตามใจที่อยากพูด เพื่อแสดงจุดยืนว่าเขาไม่ชอบใจการกีดกันสิทธิต่างๆของพวกอินเดียแดงจากรัฐบาลอเมริกาตอนนั้น
“รัสเซล โคร์ว” ไม่ใช่นักแสดงระดับ เอลิส คนแรกที่มาถ่ายหนังเมืองไทยแล้วชื่นชอบในประเทศไทยอย่างโจ่งแจ้ง ในปี 1963 มาร์ลอน บรันโด ซึ่งตอนนั้นคือนักแสดงอันดับ 1 อย่างแท้จริงของฮอลลิวู๊ด (และอาจจะโด่งดังที่สุดในโลก) ได้ตุ๊กตาทองมาแล้ว 1 ตัวจากเรื่อง on the waterfront
มาถ่ายภาพยนตร์ที่เมืองไทย และชอบเมืองไทยมากถึงขนาดยอมให้ถ่ายภาพเขาโปรโมทประเทศไทยผ่านนิตยสารอันดับหนึ่งตอนนั้นคือ Life
ภาพยนตร์เรื่องนั้นคือเรือง The Ugly American ภาพยนตร์ที่เสียดสีนโยบายแทรกแซงต่างประเทศของอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันก็วิจารณ์ขบวนการปฎิวัติที่ไร้เดียงสาไปด้วยในคราวเดียวกัน เรื่องนี้ได้ท่าน “คึกฤทธิ ปราโมช” มาร่วมแสดงด้วย
ภาพของ มาร์ลอน บรันโด ที่ท่องเที่ยวชื่นชม วิถีชีวิต กิจกรรมการละเล่น วัฒนธรรม ประเพณี ของประเทศไทยถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักและกลายเป็นประตูสู่อาเซียน นับแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา
ที่เล่าเรื่องการรับตุ๊กตาทองของบรันโดให้ฟัง เพราะอยากบอกว่าคนอย่าง บรันโดนั้น ใครก็สั่งอะไรเขาไม่ได้ เขาเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างมาก
ความยิ่งใหญ่ของเขาคือ เขาเป็นคนแรกที่สามารถฉีกขนบสตูดิโอตอนนั้นได้ จากที่ก่อนนั้น นักแสดงต้องเซ็นสัญญากับสตูดิโอเป็นเวลาสองปี แสดงสองสามเรื่อง ได้ค่าจ้างเป็นรายเดือน
แต่บรันโดเป็นคนแรกที่ไม่ยอมเซ็นกับสตูดิโอใดทั้งสิ้น และประกาศว่าถ้าสตูดิโอไหนต้องการเขาแสดงให้ ต้องจ่ายเรื่องละ 2 ล้านเหรียญ ขาดตัว ซึ่งสูงที่สุดตอนนั้น (ในยุคที่เงินเดือนคนอเมริกาตอนนั้นคือ 500 เหรียญ) นั่นแปลว่าถ้าเขายินยอมจะทำอะไร หมายถึงว่าเขาต้องชื่นชมในสิ่งนั้นอย่างจริงจัง
มาร์ลอน บรันโด ถึงกับไปกินนอนที่บ้านท่านคึกฤทธิ ปราโมช จนสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ท่านคึกฤิทธิได้จัดแจงให้บรันโดมีโอกาสเข้าเฝ้า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วย
ปีนั้นเป็นยุคของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งก็เผด็จการนั่นแหละ แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องศิลปะภาพยนตร์ใดๆ และจากความสำเร็จครั้งนั้น ประเทศไทยก็กลายเป็นฐานการถ่ายทำภาพยนตร์ของนานาชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จากมาร์ลอน บรันโด ถึง รัสเซล โคร์ว แสดงให้เห็นว่าประเทศไทย มีอะไรดีมากมายในสายตาโลกตะวันตก พวกเขาเห็นความงดงาม ชีวิตที่น่าสนใจ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณี อันน่าชื่นชม
เราควรจะช่วยกันรักษาไว้และเพิ่มมูลค่า หรือว่าจะทุบทิ้งด้อยค่า ก็ลองคิดดูกันเอา
มาร์ลอน บรันโดนี่ ไหว้สวยกว่าคนไทยแท้ๆบางคนซะอีก
FB : Withawatt Cozy Tansuhaj