“วิทเยนทร์” สวน “หมอของขวัญ” ร่ำหาประชาธิปไตย แต่ฟ้องปิดปากสื่อ ห้ามเสนอข่าวขโมยเพชร!

"วิทเยนทร์" สวน "หมอของขวัญ" ร่ำหาประชาธิปไตย แต่ฟ้องปิดปากสื่อ ห้ามเสนอข่าวขโมยเพชร!

จากกรณีที่ พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ หรือหมอเคท โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่ากำลังเตรียมตัวฟ้องร้องดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด Bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.), นายนพดล พรหมภาสิต อดีตเลขาธิการ ศชอ., สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์, นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, น.ส.อัญชะลี ไพรีรักษ์, นายวิทเยนทร์ มุตตามะระ, นายสันติสุข มะโรงศรี และบุคคลอื่นๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ 15 ราย ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากที่สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ได้มีการเปิดเผยถึง คดีลักทรัพย์เครื่องเพชร ว่า พญ.ของขวัญ มีเอี่ยวด้วย

 

ล่าสุดทางด้านของ นายวิทเยนทร์ มุตตามะระ ผู้ประกาศข่าวช่องท็อปนิวส์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ปิดปากคนอื่น ใครนำความจริงของตนมาพูด ต้องฟ้องปิดปาก ผมยืนยันว่าทำหน้าที่สื่อมวลชน ติชมตามธรรมนองคลองธรรม และเป็นประโยชน์สาธารณะ เรื่องจริงคือ

– นาง ของขวัญ วินธุพันธ์ (นามสกุลในขณะมีสามี) เป็นจำเลยในคดีลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์
– ทรัพย์ที่ลักโขมย คือ แหวนเพชร ๓ วง มูลค่ารวม ๑๕ ล้านบาท ประกอบด้วย แหวนเพชรรูปหัวใจ, แหวนเพชรในเรือน, และ แหวนเพชรชู
– เบื้องต้นนางของขวัญ จำเลยให้การปฏิเสธ
– ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นาง ของขวัญ มีความผิดจริง ลงโทษจำคุก ๒ ปี ไม่รอลงอาญา และให้คืนหรือชดใช้ทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนให้แก่โจทก์
– ในชั้นอุทธรณ์ ก่อนศาลอุทธรณ์จะอ่านคำพิพากษา นางของขวัญกลับให้การเป็น “รับสารภาพ”
– รับสารภาพ ยอมรับว่ากระทำผิดตามฟ้อง ขอศาลโปรดเมตตาลงโทษในสถานเบา โดย ระบุว่าบิดามารดาสูงอายุและสุขภาพไม่ดีนางของขวัญต้องทำหน้าที่ดูแลในฐานะลูกกตัญญู, เป็นมารดาของบุตร ๑ คน ต้องเลี้ยงดูบุตรให้เติบโตเป็น “พลโลก” ที่ดี, และเคยทำสาธารณประโยชน์ช่วยงานมูลนิธิสร้างรอยยิ้มช่วยเหลือรักษาเด็กปากแหว่งที่แม่ฮ่องสอน

– นางของขวัญ ยอมรับสารภาพผิดว่า “ความผิดของคดีนี้เกิดจากความขาดเขลาขาดสติคิด ขอให้ศาลเมตตาและ จะประพฤติตนเป็นพลเมืองดีสืบไป
– ศาลอุทธรณ์ อุทธรณ์ พิพากษาให้ลดโทษลง เหลือจำคุก จำเลย ๑ ปี ไม่รอลงอาญาและให้คืนหรือชดใช้มูลค่าทรัพย์
– นางของขวัญ ยื่นฎีกา สารภาพผิดและขอความเมตตาต่อศาลฎีกาให้ลดโทษ
– ศาลฎีกา พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลย รู้สึกสำนึกถึงความผิด เห็นสมควรให้จำเลยแก้ไขฟื้นฟูตนเองด้วยการรอลงโทษจำคุก ดังนั้นโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ให้คุมประพฤติมีกำหนด ๑ ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ ๔ ครั้ง และให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ๓๐ ชั่วโมง
– ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ (เมื่อไม่นานนี้เอง)

ความจริงโดยย่อก็มีด้วยประการเช่นนี้
บทเรียนจากเรื่องนี้ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม เพราะจะได้พึงระมัดระวังตน มิให้ตกเป็นเหยื่อ และ ไม่กระทำการอันขาดเขลาจนต้องตกเป็นจำเลยในโทษฐานลักทรัพย์
#อทินาทนาเวรมณี #เว้นจากการลักทรัพย์ #สารภาพผิด #เกิดจากความขาดเขลาขาดสติคิด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีน-มาเลเซียถกความร่วมมือเศรษฐกิจรับมือภาษีสหรัฐ
"นักวิชาการชีวเคมี" ย้ำไทย-สหภาพยุโรป ห่วงสุขภาพปชช. ไม่อนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการผลิตเนื้อหมู เสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค
"นายกฯ" ขึ้น ฮ. บินสำรวจสภาพจราจร ถนนมิตรภาพ - พระราม 2  เตรียมพร้อมปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์
"ชัชชาติ" ยันเร่งเร็วสุด แจงรออัยการตอบข้อกม.จ่ายหนี้รถไฟฟ้าสีเขียว หยุดภาระดอกเบี้ยวันละ 5.4 ล้าน
ไทยโชว์พลังซอฟต์พาวเวอร์! สวนนงนุชนำขบวนดอกไม้ไทยร่วมเทศกาลระดับโลกที่เนเธอร์แลนด์
นักท่องเที่ยวแห่บุรีรัมย์ "ชิดชนก" จัดเต็มสีสันผ้าไทยรับสงกรานต์ เม็ดเงินสะพัด 40 ล้าน
"นฤมล" ย้ำจุดยืนปกป้องเกษตกร ไม่ยอมนำผลประโยชน์คนไทย เป็นเงื่อนไขแลกเจรจา "ภาษีทรัมป์"
"สก.นภาพล" จี้ "ชัชชาติ" เร่งเคลียร์หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว เสียดายภาระดอกเบี้ยวันละ 5.4 ล้าน ควรใช้นำพัฒนากทม.
เวียดนามเริ่มเจรจาการค้าปมภาษีตอบโต้กับสหรัฐแล้ว
มูลนิธิมาดามแป้ง มอบอาหารและของใช้จำเป็น มูลค่า 100,000 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมียนมา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น