วันนี้(23 ตุลาคม 2564) ผู้สื่อข่าวเดินทางไป ที่ วัดจุฬามณี ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง หลังเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการเร่งกู้วัด ล้างทำความสะอาด หลังคันกั้นน้ำหลังวัดจุฬามณี ทนแรงมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่วมสูงไม่ไหวพังทลาย น้ำทะลักเข้ามาภายในวัดท่วมสูง 1 เมตร ทำให้ท่วมภายในวัดนานนับสัปดาห์ แต่มาวันนี้ น้ำเข้ามาท่วมอีกครั้ง สูงกว่า 1 เมตร และสูงกว่าครั้งที่ผ่านมาจากมวลน้ำที่มาในระลอกที่ 2
นางสาวอรุโณทัย พารอด กำนันตำบลบ้านกุ่ม กล่าวว่าทางวัดได้กู้วัดหลังถูกน้ำท่วม ล้างทำความสะอาดเตรียมงานกฐิน แต่เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา น้ำมามากขึ้นและเยอะกว่าเดิม ทำให้น้ำผุดเข้ามาใต้กุฎิ ตรงจุดเดิมที่เคยอุดไว้ตอนแรก ซึ่งจะมีจุดเสี่ยง 2 จุด คือ จุดกำแพงวัด และ จุดกุฎิหลวงพ่อ ปรากฏว่าครั้งแรกกำแพงพัง ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม แต่มาครั้งนี้น้ำผุดเข้ามาเป็นโพรงใหญ่ ทำให้น้ำระลอก 2 ครั้งนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าเดิมทำให้ไหลเข้ามากระสอบทรายที่เตรียมไว้เอาไม่อยู่ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบน้ำปีนี้เยอะกว่าครั้งก่อนแล้ว แต่ถ้าเทียบปี 54 ตอนนี้เกือบเท่าแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบัน เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี และ เขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงมีการระบายน้ำปริมาณจำนวนมากลงท้ายเขื่อน ทำให้ระดับน้ำยังคงท่วมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำป่าสัก มีปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทุกพื้นที่ รวมแล้ว 14 อำเภอได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน อำเภอมหาราช อำเภอบางซ้าย อำเภอภาชี อำเภอลาดบัวหลวง และอำเภอบ้านแพรก รวม 136 ตำบล 809 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 54,819 ครัวเรือน
