ครอบครัวบรรลือฤทธิ์ รดน้ำศพคุณแม่ปรางทิพย์ที่จากไปด้วยโรคชรา ท่ามกลางคนบันเทิง ญาติสนิท และผู้คนไปร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่ศาลา 15 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร มีพิธีรดน้ำศพคุณแม่ปรางทิพย์ บรรลือฤทธิ์ วัย 85 ปี แม่ของคุณบิณฑ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา
ซึ่งมีคนในครอบครัว ญาติ คนบันเทิง และคนที่เคารพรัก เดินทางมาผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ อาแอ๊ด สมบัติ เมทะนี และ อารอง เค้ามูลคดี ก่อนที่จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมคืนแรกในเวลา 18.00น.
โดยคุณบิณฑ์ และ คุณเอกพันธ์ เล่าว่า แม่ป่วยมา 3 รอบ ตั้งแต่ปี 63 ซึ่งก็เข้า-ออกโรงพยาบาล และจนแม่มาเข้าโรงพยาบาล 30 กันยายน แต่ปรากฎว่ารอบนี้ แม่ไม่เหมือนทุกครั้ง
ซึ่งเมื่อการรักษาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ แพทย์ก็ถามว่าถ้าหากวิกฤตจะปั้มหรือไม่ ซึ่งก็มองหน้ากัน และตัดสินใจไม่ปั้ม เพราะจะทำให้แม่ทรมาน แต่ปรากฎว่าพอเข้าสัปดาห์ที่ 3 แม่ก็ดีขึ้น ยิ้มแย้ม กระทั่งช่วง 20 ตุลาคม บิณฑ์ ได้มากราบแม่ ก่อนไปช่วยน้ำท่วม และกลับมากลางคืนวันที่ 21 ก็มาเยี่ยม
ในคืนนั้น ตนก็นำผ้าห่มแม่กลับมาซักที่บ้านด้วย แต่ไม่รู้เป็นอะไร ตนกลับเอาผ้าห่มไปห่มนอนอยู่ทั้งคืน พอเช้าวันรุ่งขึ้นไปหาแม่ แม่ก็เสียพอดี ก่อนเสียตนก็กอดแม่ แม่กลืนน้ำลาย 5 ครั้ง จากนั้นก็จากไปเหมือนหลับไปเฉยๆ
ทั้งนี้ทุกอย่างเหมือนแม่รอ เพราะวันที่ 22 ตุลาคม เป็นวันที่ตน เคยบวชให้กับถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นวันกฐินวันแรกของการออกพรรษา ขณะที่คุณเอกพันธ์กล่าวเสริมว่า และอีกความบังเอิญคือ ศาลา 15 ก็ตรงกับเลขบ้านของแม่อีกด้วย
ทั้งคู่ยังบอกอีกว่า เวลาทำงานมาเหนื่อยๆ เพราะกลับมาบ้าน และได้เจอแม่ มันคือพลังมหาศาลให้หายเหนื่อย ได้เข้าไปกอด แต่ตอนนี้ใจหายที่กลับมาแล้ว แม่ไม่อยู่ ปกติกลับมาจะไปหยอกแม่ ไปไหว้แม่ ซึ่งสิ่งที่อยากบอกกับแม่คือ จะดูแลตัวเองอย่างดี และทำบุญให้มากขึ้น
โดยที่ผ่านมา แม่สนับสนุนให้ทั้งคู่ช่วยเหลือสังคมมาตลอด สนับสนุนเรื่องเงินในการนำไปช่วยเหลือคนอื่น เพื่อเป็นการแบ่งปันให้กับคนอื่นด้วย
แม่ตนเคยมีโรคประจำตัว คือโรคไต
แพทย์เคยแนะนำให้ฟอกไต แต่ตนเห็นว่าแม่อายุ 80 กว่าแล้ว เกรงจะช็อค ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามวาระตามธรรมชาติ รวมถึงเมื่อคุณแม่เสีย ไม่ได้ให้แม่ฉีดฟอร์มาลีน เพราะเคยคุยตั้งแต่ตอนที่แม่ยังมีชีวิต ว่าทุกศพที่ฉีดฟอร์มาลีน ร่างกายจะดำ ตัวจะแข็ง ซึ่งน้ำยาช่วยเพียงแค่การชะลอไม่ให้ร่างกายเน่า
ส่วนความเชื่อตนนั้น เชื่อว่า ดวงวิญญาณของแม่กลับมาบ้านแล้วเมื่อประมาณห้าทุ่มครึ่ง ถึงเที่ยงคืน ปกติหน้าบ้านไม่มีสุนัข แต่ปรากฎว่าเมื่อคืนมีสุนัขกว่า 10 ตัว อยู่หน้าบ้านและหอนพร้อมกันทั้งหมด ตอนนั้นรู้แล้ว จึงยกมือไหว้อธิษฐานขอเจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน เปิดทางให้คุณแม่เข้ามาในบ้าน หลังจากกล่าวเสร็จไม่ถึง 30 วินาทีสุนัขกระจัดกระจายออกไป ไม่มีเห่าหอนอีกเลย จึงรู้ว่าแม่กลับไป