เมื่อวันที่ 25 ต.ค. พันเอกภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังจากกองร้อยจุดตรวจศิลาหลัก และจุดตรวจทุ่งตาพล สกัดจับรถยนต์ขนแรงงานต่างด้าวได้ จำนวน 44 คน แบ่งเป็น ชาย 35 คน หญิง 9 คน พร้อมนายหน้าและคนนำพารวมกว่า 50 คน หลังตรวจพบรถเป้าหมายรถยนต์จำนวน 4 คัน โดยมีรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้ออีซูซุสีบรอนด์ เลขทะเบียน บร 2196 ชุมพร รถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุสีดำ ทะเบียน กษ 1314 พิษณุโลก ด้านหลังมีคนจำนวนมากคลุมทับด้วยผ้าใบสีดำ รถยนต์กระบะสีประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์ ทะเบียน กธ 1669 เพชรบุรี รถยนต์อีซูซุมิวเอ็กซ์ สี บรอนด์เงิน ทะเบียน กค.3622 ระนอง ขับรถมาด้วยความเร็วบริเวณบ้านพรุตาโรย ตำบลบางแก้ว มุ่งหน้า อำเภอละอุ่น
จึงเข้าสกัดจับและไล่ติดตาม รถยนต์ทั้ง 4 คัน จนกระทั่งมาถึง หมู่ 5 ตำบลละอุ่นเหนือ อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง ก่อนจะพบว่า มีรถยนต์จำนวน 2 คันแยกตัวออกมา แล้วใช้เส้นทางลัด เข้าบางตะพาบน้ำ มุ่งหน้าบ้านในหุบ หมู่ 4 ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร และมีรถจักรยานยนต์นำทางและดูต้นทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงพูดคุยโทรศัพท์เพื่อส่งสัญญาณ ก่อนที่จะพบว่า มีรถยนต์กระบะสี่ประตู สีดำยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมค ทะเบียน กษ 1314 พิษณุโลก ซึ่งบรรทุกคนเต็มหลังรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ก่อนจะจับกุมรถยนต์กระบะสีประตูเสริมหลังคา(แครี่บอย) ทะเบียน กธ 1669 เพชรบุรีได้อีกคัน และในเวลาถัดมาสามารถควบคุมรถยนต์พร้อมคนขับ บริเวณยอดเขา ซึ่งเป็นทางลูกรังก่อนถึง โรงเรียนบ้านในหุบฯ บริเวณ หมู่ 4 ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
พันเอกภูมิพัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามส่วนใหญ่เดินทางมาจากรัฐย่างกุ้ง เมาะลำไย,ยะไข่,เเละรัฐทวาย ประเทศเมียนมา โดยมีเป้าหมายการเดินทางหลบหนีเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.สมุทรสาคร เเละบางส่วนจะลงมาทำงานที่จ.ตรัง จ.ปัตตานี โดยจากการสอบถามชาวเมียนมาทั้งหมด มีเส้นทางการหลบหนีมาจากประเทศเมียนมาก่อนจะมาพักที่บ้านหมาราง อำเภอเขม่าจี จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมาจำนวน 15 วัน จากนั้นจึงเดินทางข้ามมาฝั่งประเทศไทยด้วยเรือหางยาง จำนวน 3 ลำ เพื่อมาขึ้นบริเวณบ้านดอนสวะหมู่ 7 ตำบลมะมุ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง โดยจะมีรถของนายหน้ารถมารอรับ ก่อนจะต้องการไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ชาวเมียนมาที่หลบหนีจะต้องเสียค่าใช่จ่ายให้นายหน้าชาวเมียนมา คนละ 19,000 บาท สำหรับการจับกุมในครั้งนี้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโควิด – 19 ให้กับชาวเมียนมา และปฎิบัติตามหลักมนุษยธรรม ก่อนที่จะควบคุมตัวส่งสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว จังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย