กลุ่มคนขับรถบิ๊กไบค์ มารวมตัวติดป้ายเรียกร้องให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบ หลัง หนึ่งในสมาชิก ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านสนามเป้า แต่อยู่ๆ น้องเสียชีวิตหลังคลอด โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆที่หมอทำคลอดแจ้งว่าน้องปกติ
เมื่อเวลา 10.00 น. ได้มีกลุ่มคนขับรถบิ๊กไบค์ มารวมตัวติดป้ายเรียกร้องให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบ หลัง หนึ่งในสมาชิก ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านสนามเป้า แต่อยู่ๆ น้องเสียชีวิตหลังคลอด โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆที่หมอทำคลอดแจ้งว่าน้องปกติ
ขบวนรถบิ๊กไบค์มากกว่า 10 คัน พร้อมกับรถเก๋ง เปิดประทุน ให้แม่ที่สูญเสียลูกถือรูปภาพลูกสาวที่คลอดมาลืมตาดูโลกได้แค่ 2 ชั่วโมง แห่ไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถนนพหลโยธินย่านสนามเป้า เพื่อเรียกร้องให้โรงพยาบาลที่ทำคลอดออกมาชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูก โดย รถบิ๊กไบค์และรถเก๋งทุกคัน ที่ร่วมกันแห่ขวบเรียกร้องความเป็นธรรม ได้ติดป้ายข้อความ เรียกร้องให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจง เช่น “เด็กตายที่โรงพยาบาล แต่อ้างว่าไม่มีกล้องวงจรปิด”
เพจเฟซบุ๊กของ คุณ Narudee Muangkamjud (นฤดี ม่วงกำจัด) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าความรู้สึกถึงการสูญเสียลูกคนแรกที่เฝ้ารอคอยมานานถึง 9 ปีเต็ม
ส่วนสองสามีภรรยา ที่เสียลูกไปโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ และติดใจในวิธีการรักษาของแพทย์ คือคุณดวงฤดี ม่วงกำจัด คุณแม่ บอกว่า ตอนคลอด คุณหมอที่ทำคลอด ก็ทำคลอดให้ตามปกติ ไม่พบความผิดปกติขณะทำคลอด และใช้วิธีการคลอดตามธรรมชาติ ที่สำคัญหลังน้องคลอดออกมา ได้ยินเสียงน้องร้องดังหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าน้องปกติ และหมอที่ทำคลอดแจ้งว่าน้องปกติ
ส่วน นาย ปรีชา ศรีแสงจันทรา คุณพ่อ บอกว่า หลังภรรยาคลอดลูก พยาบาลก็นำลูก ไปให้คุณหมอด้านเด็กดูแลต่อ แล้วคุณพ่อเฝ้าติดตามเห็นว่าพยาบาลนำน้องไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อทำการรักษาบางอย่าง คุณพ่อจึงพยามเข้าไปสอบถามว่าน้องเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้คำตอบ จนสุดท้ายผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงคุณหมอเดินออกมาบอกว่าน้องเสียชีวิตแล้ว โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุ
หลังจากนั้นคุณพ่อจึงไปขอประวัติการรักษาน้องมาตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติหลายอย่างเลยเฉพาะการรักษาด้วยการฉีดสาร อาดีนารีนไปที่หัวใจน้องถึงหกครั้ง จนมาถึงทุกวันนี้พยายามสอบถามถึงสาเหตุแต่โรงพยาบาลกลับบ่ายเบี่ยงและไม่ชี้แจงสาเหตุที่แท้จริง และกลับระบุว่า ทางโรงพยาบาลไม่ผิด แต่จะมอบเงินจำนวนหนึ่งล้านบาทให้กับพ่อแม่ ในฐานะที่เป็นผู้สูญเสีย ในขณะที่พ่อและแม่มองว่าชีวิตของลูกทั้งคนไม่สามารถแลกได้ด้วยเงินหนึ่งล้านบาท
เด็กที่เสียชีวิต ยังเป็นหลานของทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความชื่อดัง ซึ่งระบุว่าตอนนี้เตรียมดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เนื่องจากมีการตรวจสอบเอกสารการรักษา แล้วพบว่ามีความผิดปกติไม่สอดคล้องกัน เช่น แพทย์ที่ทำคลอดระบุในเอกสารว่าน้องมีอัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ซึ่งปกติ แต่แพทย์เด็กกลับระบุในเอกสารว่าน้องมีอัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่า 100 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังคลอดเวลาเดียวกัน ส่วนอีกอย่างที่พบความผิดปกติคือแพทย์ที่ทำคลอด ระบุว่าน้องมาคลอดตามกำหนดคือเก้าเดือนเต็ม แต่แพทย์เด็กกลับระบุในเอกสารสาเหตุการตายว่าน้องมาคลอดก่อนกำหนด
ส่วน โรงบาลพยาบาลเอกชนดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ทีมข่าว พยายามติดต่อไปยังโรงพยาบาลเอกชนย่านสนามเป้าแล้ว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ยังอยู่ในระหว่างกระบวนการ ที่เจ้าหน้าที่รับเรื่อง และจะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดต่อกลับ เพื่อแจ้งรายละเอียดให้รับทราบต่อไป