นครพนม วางแผนรองรับการเปิดประเทศ รถไฟจีน – ลาว โครงข่ายคมนาคมอาเซียน

นครพนม วางแผนรองรับการเปิดประเทศ รถไฟจีน – ลาว โครงข่ายคมนาคมอาเซียนและขับเคลื่อนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุมศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน One Stop Service (OSS) อาคารสำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการเชิญคณะหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือและวางแผนแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดและเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม เพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดิมเตรียมเปิด 1 มกราคม 2565 เป็นเฟสสุดท้ายของประเทศ แต่ด้วยศักยภาพของจังหวัดนครพนมที่มีความพร้อมและกำลังเร่งดำเนินการตามเกณฑ์ sandbox ระดับอำเภอ คาดว่าจังหวัดนครพนมจะเปิดประเทศได้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 รวมถึงวางแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดให้เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม รถไฟจีน – ลาว ที่มีการรับมอบรถไฟขบวนล้านช้างไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

โดยในที่ประชุมได้มีการเตรียมความพร้อมของแต่ละหน่วยงานเพิ่มเติมจากที่ปฏิบัติอยู่แล้ว เพื่อให้ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุนมีการให้บริการที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น คือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนมจะมีการให้บริการหนังสือรับรองถิ่นกําเนิดสินค้า สำนักงานอุตสาหกรรมมีภารกิจเกี่ยวกับการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ขณะที่สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม ก็จะมีในเรื่องการสนับสนุนให้มีการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม แม้ในปัจจุบันจะมีปัญหาติดขัดในเรื่องของด่านพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่ปิดชั่วคราวทำให้แรงงานต่างด้าวที่จะนำเข้าตาม MOU ไม่สามารถดำเนินการได้ และแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวที่จะเข้ามาทำงานในลักษณะไป-กลับหรือตามฤดูกาล ตามมาตรา 64 ก็ยังไม่สามารถดำเนินการ แต่ถ้ามีการเปิดประเทศและแรงงานเหล่านี้สามารถเดินทางข้ามมาทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ได้ ก็ต้องพร้อมให้บริการทันที

ทั้งนี้ที่ผ่านมาการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนจังหวัดนครพนม มีมูลค่าเพิ่มขึ้นแม้จะอยู่ในสภาวะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมูลค่าการค้ารวมช่วงเดือนมกราคม -กันยายน 2564 มีมูลค่ามากถึง 106,111.44 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมามีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 45,163.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 74.1 แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 90,546.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.86 หรือมูลค่า 39,638.25 ล้านบาท โดยสินค้าที่ส่งออก ประกอบไปด้วย ทุเรียน ลำไย มังคุด แผงวงจรประมวลผลคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณจากมือถือไปยังทีวี เครื่องดื่มบำรุงกำลัง โซล่าเซลล์ โค กระบือ กล้องวงจรปิด ลำโพง ครีมเทียม หมากและพลู ขณะที่การนำเข้าก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.04 หรือมูลค่า 5,525.3 ล้านบาท โดยสินค้าที่นำเข้า คือ เวเฟอร์ที่มีธาตุเคมีโด๊ปแล้วที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตโซล่าเซลล์ พลังงานไฟฟ้า ปูนซีเมนต์ ปุ๋ยเคมี แผงโซล่าเซลล์ แบตเตอรี่ เสื้อเชิ้ตสตรี ผ้าทอ กระเป๋า กล่องพลาสติก และถุงพลาสติก ขณะที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่จะมาสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมการคมนาคมขนส่ง การค้า การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครพนมได้ส่งมอบพื้นที่ให้บริษัท เจซีเค อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) เข้าดำเนินการเป็นเนื้อที่ 1,335-2-28.1 ไร่แล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในส่วนต่าง ๆ.

ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครพนม

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น