เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนในไลน์ส่วนตัว ให้มารับการฉีดวัคซีนที่สภาฯ ในวันที่ 28 ต.ค.ว่า ที่มาของการฉีดวัคซีนที่สภาฯ คือเมื่อรัฐบาลประกาศให้มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 3 ให้ประชาชนที่ฉีดซิโนแวคเข็มที่ 1 และ 2 ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้รอดูระยะหนึ่งก่อนว่าบุคลากรทางการแพทย์ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือยัง และดูว่าไม่มีปัญหาเรื่องจำนวนวัคซีนในหมู่ประชาชน เมื่อเห็นว่าทุกอย่างดีแล้ว จึงได้ประสานไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อขอนำวัคซีนมาฉีดให้กับบุคลากรรัฐสภา รวมทั้ง ส.ส.และสื่อมวลชน ทั้งนี้เหตุผลหลักที่นำมาฉีดที่สภาฯ ก็เพื่อแบ่งเบาภาระของกรมควบคุมโรค และเพื่อรองรับการเปิดประชุมสมัยสามัญที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. โดยสภาฯ ได้ฉีดวัคซีนให้บุคลากรและสื่อมวลชนไปแล้ว ในวันที่ 12 , 14 , 15 และ 19 ต.ค. ส่วน ส.ส.และผู้ติดตามจะเปิดให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 26-28 ต.ค. ซึ่งสภาฯ ได้รับวัคซีนมาจากกรมควบคุมโรค 5,000 โดสเท่านั้น
นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของประชาชนทั่วไป ทางสภาฯไม่ได้ละเลยเรื่องนี้ เราได้เคยประสานเป็นการภายในไปยังกระทรวงสาธารณสุขเมื่อก่อนจะมีการเปิดประชุมสมัยสามัญสมัยที่แล้วว่า หากจะให้สภาเป็นจุดฉีดวัคซีนจุดหนึ่งเราก็พร้อมในขณะที่ยังปิดสมัยประชุมอยู่ แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า กระทรวงสาธารณสุขและกทม.มีจุดฉีดวัคซีนเพียงพออยู่แล้ว ส่วนเวลานี้ต้องเรียนว่าเราได้รับวัคซีนมาในจำนวนที่จำกัด และมีเป้าหมายที่ได้ตกลงกับกรมควบคุมโรคไว้อย่างชัดเจน จึงไม่สามารถเปิดกว้างฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ ดังนั้นการโพสต์ของส.ส.ก้าวไกล คนนั้นไม่เป็นความจริง และทางรองเลขาธิการพรรคก้าวไกลก็ได้ยอมรับกับทางผู้อำนวยการสำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา แล้วว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดภายในพรรค และเมื่อสักครู่นี้รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็ได้โทรศัพท์มาขอโทษตน อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว พรรคก้าวไกลคงต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ความจริงแล้วการแจ้งข่าวเช่นนี้เราแจ้งไปยังพรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล และแจ้งในลักษณะเดียวกันแต่ก็ไม่มีปัญหาเช่นนี้ในพรรคการเมืองอื่นๆ
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลต้องรับผิดชอบอย่างไร นพ.สุกิจ กล่าวว่า รับผิดชอบสิ่งที่โฆษณาเชิญชวนไป ซึ่งได้ข่าวว่า ส.ส.ก้าวไกล คนนั้นลบโพสต์ออกแล้ว แต่ตนก็กังวลไปถึงประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว ซึ่งพรรคก้าวไกลคงจะต้องดำเนินการเอง