‘กู้ชีพ’ชี้แจงแล้ว เหตุแท็กซี่ชนสาวท้องดับ หลังญาติข้องใจรถฉุกเฉินล่าช้าทำเสียชีวิต

'กู้ชีพ'ชี้แจงแล้ว เหตุแท็กซี่ชนสาวท้องดับ หลังญาติข้องใจรถฉุกเฉินล่าช้าทำเสียชีวิต

จากกรณี เหตุสลดใจสาววัย 21 ปี ถูกรถแท็กซี่ “แท็กซี่ตีนผี” ชนเสียชีวิต พร้อมลูกในครรภ์ โดยสามีของผู้ตายแสดงความกังวนใจ กรณีรถฉุกเฉินที่นำตัวภรรยาส่งโรงพยาบาลล่าช้า ทำให้ต้องอยู่ในรถฉุกเฉินนานเกือบ 40 นาที

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 27 ตุลาคม 2564 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายนวพล พงษ์ทอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เดินทางไปช่วยเหลือที่จุดเกิดเหตุ ได้ขอชี้แจงว่า ทีมของตัวเองเป็นทีมอาสาสมัครกู้ชีพ ที่เดินทางไปจุดเกิดเหตุเป็นทีมแรก ซึ่งเมื่อไปถึง ผู้เสียชีวิตในตอนนั้นยังมีชีพจรอยู่ จึงทำการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ด้วยการนำผู้บาดเจ็บในตอนนั้น ขึ้นบนรถเพื่อต่อสายออกซิเจนให้ เพื่อยื้อชีวิตทั้งแม่และเด็กในท้อง แต่ตัวเองเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่กู้ชีพซึ่งไม่มีอำนาจในการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นผู้ป่วยสีแดงได้ ตามกฎหมายต้องรอเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินของทางโรงพยาบาลเท่านั้น

กระทั่งเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลตากสิน เดินทางมาถึง ตัวเองก็ได้ยินว่า เจ้าหน้าที่แพทย์คนหนึ่งของโรงพยาบาล ได้ถามขอบัตรประชาชนกับแฟนหนุ่มผู้บาดเจ็บ เพื่อจะได้ตรวจสอบสิทธิ์การรักษา ซึ่งใช่เวลาสักพัก ตอนนั้นตัวเองเห็นว่า คนเจ็บเริ่มหน้าซีดอาการไม่ค่อยดีแล้ว จึงพยายามถามเจ้าหน้าที่แพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าวว่า จะนำส่งโรงพยาบาลใด แต่เจ้าหน้าที่แพทย์โรงพยาบาลก็ยังรอเอาบัตรประชาชนก่อน

จนตัวเองมองว่าไม่ไหวแล้วจึงขอให้ เจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาล นั่งมาในรถกู้ชีพคันของตัวเองไปเลย ไม่ต้องย้ายผู้บาดเจ็บไปรถโรงพยาบาลแล้ว เพื่อลดเวลาและการเคลื่อนย้าย

จนสุดท้ายมาทราบว่าสิทธิ์ของคนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ จึงยอมนำส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ์ของคนเจ็บ ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีก ซึ่งตัวเองก็ไม่เข้าใจว่า แพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลดังกล่าวนั้น ทำไมถึงไม่นำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะตามหลักการแพทย์แล้ว หากเป็นผู้ป่วยสีแดง เป็นผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน 72 ชั่วโมงแรกนั้นสามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาลฟรีอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่แพทย์ของโรงพยาบาลกลับบอกว่า คนเจ็บยังปกติและไหวอยู่ ซึ่งตัวเองก็ไม่เข้าใจ และขอแก้ข่าวว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่นำส่งช้า แต่ตัวเองทำเกินหน้าที่ไม่ได้จริงๆ ตามหลักกฎหมาย

ที่ สน หลักสอง ทีมผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับผู้ที่อยู่ในเหตุการ นายหรั่ง ฝั่งธน (นามสมมุติ) ตนเองได้ผ่านตรงนั่นพอดี ตอนเองทำบริษัทแห่งหนึ่ง ตอนนั่นเห็นคนคนขับสภาพคล้ายคนเมาเท่าที่สักเกตุ ในส่วนตัวคิดว่าคนขับคงดื่มมา เนื่องจากตนก็พอมาออก ส่วนแฟนคนตายก็อยู่ในอาการตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากจะฝากถึงทุกคนก็ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ตนเองก็พบเห็นในเรื่องราวแบบนี้เป็นประจำ

 

พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์ 6 เดือนถูกแท็กซี่ชนเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.หลักสองได้แจ้งข้อหากับคนขับรถแท็กซี่สีส้ม ในข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากคนขับรถไม่ได้หลบหนี

เบื้องต้นได้สอบปากคำในคนขับรถแท็กซี่ไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม โดยหลังจากนี้ เมื่อเสร็จสิ้นงานศพ พนักงานสอบสวนจะเชิญสามีผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำเพิ่มเติม

ยืนยันว่าตำรวจทำทุกอย่างตามขั้นตอน และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท
“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี
เวียงแหงโมเดล! เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World เครือซีพี ปักธง FIGHT หมอกควันชายแดนไทย-พม่า เรียนรู้-ชวนชุมชมร่วมลด PM 2.5
ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล
กรมวิทย์ฯ บริการ มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน 2568 ..ฟรี !! ฝึกอบรมเสริมทักษะด้าน วทน. ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นขอการรับรองทุกขอบข่าย เสริมความสามารถของห้องปฏิบัติการไทยสู่สากล
"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น