เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 64 รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เชียงใหม่ เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากเกิดเหตุได้รับมอบอำนาจจาก ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ฯ กรณีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 64 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มนักศึกษา สาขาวิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ และอาจารย์มหาวิทยาลัยบางคน เดินทางไปบริเวณประตูด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรม และมีการใช้คีมเหล็กตัดโซ่ล็อกกุญแจประตูทางเข้า ก่อนจะเฮโลเข้าไปยังบริเวณทางเข้าตัวอาคารส่วนจัดแสดง เพื่อเป็นการโต้ตอบผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ไม่อนุมัติให้ใช้สถานที่ ในการจัดแสดงศิลปนิพนธ์ ของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 โดยทางกลุ่มผู้ก่อเหตุมีการอ้างว่า ผู้บริหารคณะ มีการตรวจสอบหรือสแกนผลงานนักศึกษา ว่ามีผลงานที่เข้าข่ายการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือมีผลงานที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย ทำให้นักศึกษามองว่าเป็นการคุกคามสิทธิและเสรีภาพ จึงไม่ยินยอมให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบผลงานศิลปะ ซึ่งวันที่เกิดเหตุ มี ผศ.ดร. ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำสาขาวิชา สื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มช. และ รองศาสตราจารย์ สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มช. เข้าร่วมตัดโซ่กับกลุ่มนักศึกษาด้วย
ทั้งนี้หลังจากมีการแจ้งความไปหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียก รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิตรศิลป์ เพื่อไปให้รายละเอียดเพิ่มเติมครั้งแรก โดยมีการใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง บริเวณชั้น 3 ของ สภ.ภูพิงค์ฯ ขณะที่มีกลุ่มประชาชนบางส่วนที่ติดตามเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด เดินทางมาให้กำลังใจกับคณบดีคณะวิตรศิลป์ถึงโรงพัก ร่วมทั้งนั่งรอให้กำลังใจเนื่องจากเห็นว่า รศ.อัศวิณีย์ เป็นผู้ที่ถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อให้กำลังใจในการต่อสู้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ภายในคณะฯ และภายในมหาวิทยาลัย ที่มีเหตุการณ์ที่อาจจะเกี่ยวกับเรื่องการเมือง มาเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
โดยหลังจากที่ รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิตรศิลป์ เดินทางออกมาจาก สภ.ภูพิงค์ฯ ได้เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมทั้งพิจารณาจากพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพประจักษ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ ทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอที่สื่อมวลชนบันทึกไปเผยแพร่ พบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิด ที่เข้าข่าย 2 ฐานความผิด คือ บุกรุกสถานที่ราชการ และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับอาจารย์มหาวิทยาลัย 2 ท่าน และ นักศึกษาอีก 1 คน ที่ร่วมกันตัดโซ่ประตูในวันเกิดเหตุตามหลักฐานที่ปรากฏ พร้อมเตรียมเรียกตัวบุคคลทั้งหมด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเร็วๆ นี้