ปลดล็อก 4 จังหวัด ทุกกิจกรรมและกิจการ เปิดได้ตามความเหมาะสม

ปลดล็อก 4 จังหวัด ทุกกิจกรรมและกิจการ เปิดได้ตามความเหมาะสม

วันนี้(29 ต.ค.64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.ชุดใหญ่) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา และพิจารณาปรับแผนเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้

ที่ประชุม ศบค. ได้ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เหลือ 7 จังหวัด คือ จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ยังคงมีเคอร์ฟิว 23.00 – 03.00 น. ส่วนจังหวัดอื่นยกเลิกเคอร์ฟิว มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

ส่วนพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต เหมือนพื้นที่สีเขียว ไม่มีเคอร์ฟิว ร้านอาหารสามารถเปิดได้ตามปกติ แต่ให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และกทม. พิจารณากำหนดเวลาปิด ตามสถานการณ์ในพื้นที่ เปิดขาย ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ จัดกิจกรรมรวมกลุ่มได้ตามเหมาะสม เปิดเรียนได้ตามปกติ โรงหนัง, ห้าง, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านนวด, สปา เปิดได้ตามปกติ

สำหรับกรุงเทพมหานคร ในที่ประชุมศบค.มีการพิจารณาเรื่องนี้กันนานพอสมควร มีความห่วงใยในส่วนของทางภาคของผู้บริหารและผู้อาวุโสทางด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของผอ.ศบค. ได้พูดถึงความห่วงใยในประเด็นมาตรการที่ต้องออกมากำกับอย่างเต็มที่ เพราะ พื้นที่สีฟ้า ก็เหมือนสีเขียว สามารถที่จะใช้ชีวิตได้ปกติ โดยเฉพาะเรื่องสุรา การดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหลาย แต่ก็จะปล่อยให้เกิดขึ้นโดยวิถีปกติไม่ได้ เพราะเป็นเหตุของการติดเชื้อ และเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดกลับคืนมาได้ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความซับซ้อนในเชิงจัดการควบคุมโรค

ทั้งนี้ ผอ.ศบค. ได้สั่งการให้กรุงเทพมหานคร ให้นำข้อกังวลไปประชุมบ่ายวันนี้ ในส่วนของกทม. คณะกรรมการโรคติดต่อของกทม.จะต้องออกมาตรการเฉพาะในเรื่องการให้ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ว่ากทม. ก็ได้กล่าวถึงพื้นฐานเดิม คือ มีระบบการจัดการ SHA หรือ SHA+ ที่ประชุมบอกด้วยว่า องค์กร สถานประกอบการ หรือสมาคม ที่มีส่วนรับผิดชอบในการเปิดด้านนี้ ขอให้มามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการ กิจกรรม ให้กลับไปเหมือนเดิม เมื่อมีการแพร่ระบาด หรือติดเชื้อ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยในบ่ายวันนี้ ผู้ว่ากทม.กับคณะ จะมีการหารือร่วมกัน

สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

– ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00-03.00 น.
– ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ จำกัดลูกค้า ร้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ 75 % ร้านมีเครื่องปรับอากาศ 50 % กำหนดเกณฑ์ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ เปิดตามปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. (งดจำหน่ายงดดื่มสุราในร้าน)
– Work From home อย่างน้อย 70 % หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม
– การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน
– สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวง อว. ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อตังหวัด โดยมีมาตรการกำกับอย่างเคร่งครัด
– สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ ให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
– สถานที่เล่นกีฬา หรือ แข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น.จำกัดผู้เข้าร่วมจัดการ จัดการแข่งขันได้ จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ไม่มีผู้ชม กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 25 % กรณีแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา
– โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน จำกัดจำนวนผู้ชม ห้ามบริโภคฯ พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ 50 % พื้นที่เปิดโล่ง 75 %
– ศูนย์แสดงสินค้าศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้าโรงแรม จัดประชุม ไม่เกิน 500 คน และให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เพื่อไม่ให้แออัด
– ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอล์ เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. งดจัดกิจกรราส่งเสริมการขาย ปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก และสวนน้ำ
– ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. กรณีเปิดบริการเครื่องเล่น สวนสนุก ให้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
– ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ ยกเว้น การใช้ไอน้ำ เปิดได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น