นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ว่า เป็นโครงการที่ครองใจประชาชนมากที่สุด มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิแล้ว แต่ทางกระทรวงการคลังได้ทำการตรวจสอบประมวลผล พบว่ามียังมีผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ อีกจำนวนทั้งสิ้น 119,974 สิทธิ จึงได้ทำการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ยังไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้สำเร็จ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะเต็มจำนวนสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ทั้งนี้ประชาชนที่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 อยู่แล้ว รัฐจะมีการเพิ่มวงเงินสนับสนุนให้อีก จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในวันพรุ่งนี้ และจะได้รับโดยอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่ายทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน และสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งโครงการคนละครึ่งเป็นกระกระตุ้นการใช้จ่ายให้มีเม็ดเงินสะพัดมากขึ้น สอดคล้องกับการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย 1 พฤศจิกายน
ส่วนยอดใช้จ่ายมาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพของรัฐ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มียอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ข้อมูล ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2564 ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 40.47 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 131,013.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.58 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 116,589.3 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 59,267.6 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 57,321.7 ล้านบาท 2) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 85,740 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 2,838 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 148 ล้านบาท 3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.54 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 10,643.8 ล้านบาท และ 4) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.26 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 794.7 ล้านบาท
ในส่วนของข้อมูลการใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีการใช้จ่ายสะสมประมาณ 932.3 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้สะสมจ่าย 481.5 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 450.8 ล้านบาท สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มียอดใช้จ่ายของประชาชนสะสม 595,542 บาท และมูลค่าการใช้ e-voucher สะสม 179,112 บาท โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มแล้ว กว่า 65,000 ราย