วันที่ 2 พ.ย. 2564 ชาวบ้านกระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนชรา เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.หญิงพิชญานิน ปลั่งกลาง รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมือง บุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับนางอี้ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เป็นข้าราชการแห่งหนึ่ง ใน ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ชิงลาออกไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ใช้โฉนดปลอมมาวางค้ำประกันขอยืมเงินคนชรา และหลอกให้คนชราเอาที่ดินไปกู้เงินมาให้ มีผู้เสียหายรายละตั้งแต่ 100,000-3,000,000 บาท มูลค่าความเสียหายทั้งหมดไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
โดยนางปุ่น สาโรจน์ อายุ 58 ปี อยู่เลขที่ 26 หมู่ 2 ต.กระสัง เล่าว่า นางอี้ (นามสมมุติ) ได้เริ่มมาขอให้ตนกู้เงินให้ ตนยอม เพราะเห็นเป็นภรรยาของหลาน ครั้งแรกกู้ให้ 1 ล้านบาท ต่อมาบอกว่าไม่พอ จะเอาไปปิดบัญชีสหกรณ์ จึงกู้ให้อีก 1 ล้านบาท ยังไม่พออีก หลานสะใภ้ บอกว่าจะเอาเงินไปลงทุนให้กู้อีกกว่า 1 ล้านบาท เลยกู้ให้อีกรวมแล้วกว่า 3 ล้านบาท
นางปุ่น เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนอุตสาห์เอาที่ดินทำเลดีจำนวน 5 ไร่กับที่บ้านอีกกว่า 2 งานไปค้ำประกันเอาไว้ ที่ดินแปลงนี้กะเอาไว้สร้างบ้านให้ลูกชายอยู่ มาถึงตอนนี้หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว
เช่นเดียวกับนางเสวย เจริญรัมย์ อายุ 70 ปี อยู่เลขที่ 65 หมู่ 2 ต.กระสัง คนบ้านเดียวกัน บอกว่า นางอี้ เป็นคนปากหวาน พูดเพราะ มาขอยืมเงิน บอกว่าจะใช้เป็นการเร่งด่วน เพื่อความมั่นใจ นางอี้เอาโฉนดที่ดินของนางอี้ เอง มาวางค้ำประกันไว้ มาเอา 3 ครั้ง รวม 8 แสนบาท
นางเสวย เล่าด้วยว่า สาเหตุที่เชื่อเพราะเป็นข้าราชการ ทำงานอยู่ในบ้านเดียวกัน เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม จึงเชื่อใจให้ยืม แต่มาเจ็บใจมากกว่านั้น เมื่อมารู้ภายหลังว่าโฉนดที่เอามาวางเป็นโฉนดปลอม
ซึ่งเรื่องทั้งหมดมาแดงขึ้น หลังจากนางอี้ ชิงลาออกไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา และมาทราบว่า มีชาวบ้านโดนหลอกอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงเพื่อนร่วมงานในสำนักงานกว่าครึ่งสำนักงาน ที่โดนนางอี้ หลอกไปด้วย ยอมรับว่าช้ำใจ เพราะเงินที่ให้ยืมไปเป็นเงินเก็บทั้งชีวิต จึงอยากจะให้ตำรวจติดตามนางอี้ มาดำเนินคดีให้ได้.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์