เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงว่า จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 และมาตรา 116 โดยจะนำเข้ามาผลักดันในสภาฯต่อไปนั้น ตนไม่แปลกใจกับประเด็นนี้ พรรคการเมืองใดที่มีจุดยืน มีอุดมการณ์ หรือมีธาตุแท้อย่างไรก็ต้องแสดงออกตามนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เอากันให้ชัด ๆ เลยว่า พรรคที่ต้องการแก้ไข ม.112 และ 116 มีพรรคใดบ้าง เลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะได้ตัดสินใจง่ายๆ ตนขอท้าให้พรรคเพื่อไทยประกาศชูนโยบายในการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ชัดไปเลยว่า คนต้องการแก้มาตรา 112 ให้เลือกพรรคเพื่อไทย ประชาชนจะได้รู้กันชัดๆ และถ้าแน่จริง เมื่อเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลประกาศเลยว่าจะนิรโทษกรรมพานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านอย่างเท่ๆ ประกาศเลย ประชาชนจะได้รู้ความจริง เห็นธาตุแท้ จะได้ตัดสินถูก แล้วจะได้เจอการสั่งสอนบทเรียนจากประชาชน จะได้รู้เสียทีว่าประชาชนส่วนข้างมากเขาต้องการอย่างไร
“มาตรา 112 จะมีปัญหาเฉพาะกับพวกที่ต้องการจาบจ้วงดูหมิ่น และคิดร้ายต่อสถาบัน ประชาชนทั่วไปจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ในต่างประเทศเองมีกฎหมายคล้ายๆกับมาตรา 112 ที่ใช้ในการปกป้องผู้นำของเขาเช่นกัน สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่มีจุดยืนชัดเจนที่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะร่วมกันประชาชนปกป้องสถาบัน ถ้ามีการนำมาตรา 112 เข้าสู่สภาฯ เราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุดทั้งในและนอกสภาฯ กฎหมายนี้เสนอได้ แต่ยากที่จะผ่านสภาฯ” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า พลังธรรมใหม่เคยประกาศชัดเจนว่า เราเข้าร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช่เพราะเราเชียร์รัฐบาลเผด็จการทหาร แต่เราเข้าร่วม เพราะต้องการปกป้องสถาบัน ที่ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยนำเอาไปฟ้องร้อง จนเป็นคดีความอยู่ในชั้นศาลจนถึงวันนี้ หลังจากนี้ไปพรรคพลังธรรมใหม่จะผนึกกำลังกับพรรคเล็กต่างๆ เพื่อที่จะคัดค้านมาตรา 112 ในสภาฯอย่างถึงที่สุด
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะก้าวหน้าก็เดินหน้ารณรงค์ล่าชื่อประชาชนยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลที่จะผลักดันเรื่องนี้ในสภาฯ มองว่าเป็นขบวนการรับลูกกันระหว่างพรรคการเมืองและกลุ่มคนภายนอกหรือไม่ นพ.ระวี กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลล่ารายชื่อของประชาชนสนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 ได้ดำเนินการมาก่อน ตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงเป็นพรรคก้าวไกลที่แสดงท่าทีต่อเรื่องนี้ชัดเจนออกมาก่อนพรรคเพื่อไทย หากย้อนประวัติศาสตร์ความจริงสิ่งนี้กลุ่มเสื้อแดงที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็มีท่าทีแบบนี้มาก่อนที่จะเกิดพรรคก้าวไกล ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่พรรคก้าวไกลจะต้องล่ารายชื่อ ขณะเดียวกันก็จะมีประชาชนที่ล่ารายชื่อคาดว่าจะมากกว่าประชาชนที่จะยื่นขอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งพรรคพลังธรรมใหม่ไม่ได้มีท่าทีสนับสนุนตรงนี้ เพราะเราไม่ต้องการให้มีการนำประเด็นมาตรา 112 มาสร้างความขัดแย้งในสังคม นี่คือจุดยืนของเรา
เมื่อถามว่า พรรคพลังธรรมใหม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่แสดงจุดยื่นคัดค้านชัดเจน แต่มองอย่างไรที่พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ กลับไม่แสดงท่าทีต่อกฎหมายฉบับนี้ให้ชัดเจน นพ.ระวี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้แถลงท่าทีต่อเรื่องนี้เมื่อวานนี้แล้วว่ายินดีรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย แต่จุดยืนของพรรคพลังประชารัฐเลือกเอาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แม้ว่าการแถลงของผู้ใหญ่ในพรรคจะไม่พูดยืนยันเหมือนกับเราว่าคัดค้านอย่างที่สุดทั้งในและนอกสภาฯ แต่หากตีความหมายก็จะเห็นชัดว่าคิดอย่างไร