ถึงบางอ้อ! รู้แล้วทำไมผักชีแพง ราคาพุ่งสูงปี๊ดปรอทแตกถึงกิโลกรัมละ 400 บาท

ถึงบางอ้อ! รู้แล้วทำไมผักชีแพง ราคาพุ่งสูงปี๊ดปรอทแตกถึงกิโลกรัมละ 400 บาท

จากกรณีราคาผักชีพุ่งสูงปี๊ดแทบปรอทแตกถึงกิโลกรัมละ 400 บาท จนทำให้กระทบถึงประชาชนหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะบรรดาตามร้านอาหาร และแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ต้องซื้อผักชีนำมาประกอบอาหารให้กับลูกค้าในราคาที่แสนแพง แต่ราคาอาหารยังเท่าเดิม ซึ่งจากเรื่องนี้ จึงทำให้ประชาชนหลายภาคส่วนเกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุอะไร ราคาจึงพุ่งสูงขนาดนี้

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกพืชผักสวนครัวแหล่งใหญ่อีกแห่งของจังหวัด และถือเป็นพื้นที่ปลูกผักชีเพื่อจำหน่ายแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่ง โดยจากการไปตรวจสอบพบว่า แหล่งที่เคยปลูกผักชีแห่งนี้ แทบจะไม่มีการปลูกผักชีเลย เนื่องจากก่อนหน้านี้ เกษตรกรหลายรายของที่นี่ ต่างประสบปัญหากับน้ำท่วม แต่ครั้นพอน้ำลดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ต้องมาเจอปัญหาสภาพอากาศ โดยเฉพาะแสงแดดและฝนที่ตกลงมาถี่บ่อยครั้ง จึงทำให้ไม่มีเกษตรกรรายใด กล้าปลูกผักชีในช่วงนี้ ซึ่งต้องหันไปปลูกพืชผักอย่างอื่นแทนก่อน และรอให้เข้าสู่ฤดูหนาว ที่ผักชีจะชอบอากาศแบบนี้มาก

 

 

จากการสอบถามนางบังอร เอี่ยมสงวน เกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก เปิดเผยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ พื้นที่การเกษตรต้องประสบพบเจอกับปัญหาน้ำท่วม อีกทั้ง ยังต้องเจอกับปัญหาสภาพฝนตกบ่อย และแสงแดดแรงจ้า ซึ่งถือเป็นอุปสรรคในการปลูกผักชี จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าทำสวนผักชีในช่วงนี้ ก็เลยทำให้ผักดังกล่าวเริ่มมีจำนวนลดลงจนแทบไม่เพียงพอต่อการส่งขาย จึงส่งผลทำให้ราคาของผักชีดีดตัวสูงขึ้น แต่จะเป็นแค่เฉพาะช่วงฤดูกาลนี้เท่านั้น และเป็นแบบนี้ทุกปี แต่ขณะนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วจะรอให้อากาศมีความเย็นเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย เกษตรกรก็จะเริ่มกลับมาปลูกผักชีส่งออกไปตามท้องตลาดเพิ่มมากขึ้น ราคาก็จะกลับมาถูกลง

 

 

นางบังอร เล่าต่อไปว่า ปัญหาการปลูกผักชีไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะผักชีไม่เหมือนผักชนิดอื่น แถมยังต้องลงทุนซื้อมาเมล็ดพันธุ์ในราคาสูง ซึ่งตอนนี้ แม้ราคาขายจะที่สูงจริง แต่ถ้าเทียบกับการลงทุน และการดูแลแล้วถือว่าไม่คุ้มทุน เพราะเราไม่สามารถออกแบบอากาศฝนฟ้าในช่วงนี้ได้ หากต้นผักชีเริ่มงอก แล้วต้องมาเจอฝนตกถี่ๆ และบางครั้งตกหนัก รวมถึงในบางวัน ต้องมาเจอแสงแดดแรงๆ อากาศร้อนจัด ก็จะทำให้ต้นผักชีเหี่ยวเฉา เกิดใบเหลือง ไม่เจริญเติบโต จึงไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนเลย

 

 

เมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงในการต้องประกอบอาชีพทำมาหากิน นางบังอร ระบุว่า ขณะนี้ เลือกที่จะมาทำสวนผักบุ้งแทน เพราะถึงแม้จะขายทำกำไรได้ไม่เท่าไหร่ แต่การลงทุนรวมถึงการดูแลง่ายกว่าการปลูกผักชีเยอะ ซึ่งตอนนี้ตนเน้นการทำสวนผักบุ้งขายเป็นหลัก แต่เมื่อเก็บผลผลิตชุดนี้หมดแล้ว จะรอดูสภาพฝนฟ้าอากาศอีกสักพัก แล้วจะหันกลับมาปลูกผักชีตามเดิม ส่วนเรื่องราคาแพงนั้น ไม่อยากให้มองว่า มีการปลูกกันน้อยอย่างเดียวนะ แต่ต้องดูพ่อค้าคนกลางด้วยว่า เค้ารับซื้อไปแล้วดันราคาขึ้นแค่ไหน จึงทำให้ผักชีแพงในช่วงนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น