สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง ม.112 : เบื้องหลังและความจำเป็น กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 2,272 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.5 ระบุ การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์เชิงลึกของคนในชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเชิงประวัติศาสตร์ เช่น ไทย-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-อังกฤษ เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 97.0 ระบุ สถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันหลักของการก่อร่างสร้างชาติในการกอบกู้เอกราช ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และดูแลทุกข์สุขของราษฎร และร้อยละ 96.1 ระบุ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการยกเลิก หรือ แก้ไขมาตรา 112 เพราะการมีอยู่ ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติและสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้ ร้อยละ 99.1 ไม่ต้องการให้ใคร หรือ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด นำสถาบันกษัตริย์และการแก้ ม. 112 มาเป็นเครื่องมือต่อสู้ทางการเมือง หาคะแนนเสียงและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวสร้างความแตกแยกขัดแย้งในชาติ ในขณะที่ร้อยละ 98.9 ระบุ จำเป็นต้องป้องกันและปกป้องการล้มล้างสถาบันฯ จากกลุ่มไม่หวังดี บิดเบือนใส่ร้ายและจาบจ้วง
ร้อยละ 98.4 ระบุ ประมุขของทุกประเทศ เป็นเกียรติศักดิ์ศรีและสถาบันหลักของชาติ จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมาย และร้อยละ 98.4 เช่นกัน ระบุ ไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และ ม.112 มาเป็นเครื่องมือปลุกปั่นเยาวชน คนรุ่นใหม่ให้ล้มล้างสถาบันอันเป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาภักดีของคนในชาติ
ประชาชนอีกร้อยละ 97.2 ยังเห็นว่า มีความพยายามจากขบวนการต่างชาติมหาอำนาจ เข้ามาแทรกแซง เชื่อมโยงกับกลุ่มต่อต้านสถาบัน ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ชาติไทย และร้อยละ 96.2 เชื่อว่ามีกลุ่มต่อต้านสถาบันและแกนนำรับเงินและผลประโยชน์อื่น เป็นเครื่องมือของประเทศมหาอำนาจในการโค่นล้มสถาบัน