จากกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้มีประชาชนบางส่วนมารอเพื่อตะโกนขับไล่ และยังด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย ขณะที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องกลับมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ ได้มีมวลชนมาปักหลักเพื่อขับไล่ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ซึ่งมีบางคนเตรียมน้ำปลาร้ามาด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝงชนมาตั้งแถวห้ามไม่ให้มวลชนเข้าใกล้ท่าน้ำนนท์ จนเกิดการผลักดันกันเป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามนำรถขยายเสียงและรถคุมขังเข้ามายังพื้นที่ แต่ถูกมวลชนขวางไว้ จนต้องยอมถอยออกไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามนำรถขยายเสียงและรถคุมขังเข้ามายังพื้นที่ แต่ถูกมวลชนขวางไว้ และมีการปาน้ำปลาร้าใส่รถ จนต้องยอมถอยร่นออกไป
ล่าสุดวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2564) ทางทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า วันนี้ อัยการมีคำสั่งฟ้องคดีของ 20 ผู้ชุมนุมไล่ประยุทธ์ ที่ท่าน้ำนนทบุรี เมื่อ 30 ก.ย. 64 ต่อศาลแขวงนนทบุรี ในข้อหาฝ่าฝืน #พรกฉุกเฉิน #ม215 #ม216 โดยมีการเขียนท้ายฟ้องขอให้ศาลลงโทษในอัตราขั้นสูงสุดเพื่อให้เข็ดหลาบด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นศาล
โดยในวันที่ 19 ตุลาคม 64 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ผู้ได้รับหมายเรียกในคดีชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริเวณหอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรี อีก 4 ราย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งที่ 2 โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักกิจกรรมเยาวชนอายุ 17 ปี ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่เข้ารับทราบข้อหาก่อนหน้านี้ ทำให้รวมมีผู้ถูกดำเนินคดี 21 ราย โดยในจำนวนนั้นเป็นเยาวชน 1 ราย ได้แก่ “ฟิวส์” เยาวชนจากกลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย รวมทั้งยังมี “ป้าเป้า” วรวรรณ แซ่อั้ง ที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ด้วย