จากกรณี น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ และชาวบ้านหมู่บ้านครัวภักดี ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เข้าร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังได้รับความเดือดร้อนจากการถมดินซึ่งทำกำแพงสูงจนถึงหลังคาบ้าน ทางจังหวัดจึงมอบหมายให้อำเภอเมืองกาญจนบุรี ประสานงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหา ส่งผลให้ ร้อยตรีพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนราชการร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ และรับฟังข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้อง ก่อนประชุมหารือเพื่อแนวทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น
ล่าสุดวันนี้ (5 พ.ย.64 ) รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา ที่ห้องประชุมเอราวัณ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี หลังใช้เวลาหารือร่วมกันถึง 2 ชั่วโมง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงแถลงข่าวชี้แจงเพื่อให้ผู้ร้องทุกข์และสื่อมวลชนรับทราบ โดยที่ประชุมมีมติเรื่องการถมที่ดิน ว่า จากการหารือได้มอบให้หมายเทศบาลตำบลลาดหญ้า ตรวจสอบซึ่งพบว่ามีความผิดจริง จึงมอบหมายให้เทศบาลตำบลลาดหญ้า ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นเปรียบเทียบปรับมาตรา 42 ตาม พ.ร.บ.ถมดิน และแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ หากพิสูจน์การขอต่อใบอนุญาตซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วยังมีการดำเนินการถมดินต่อ เจ้าของที่ดินก็จะมีความผิด เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอำนาจตามหน้าที่
ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องการก่อสร้างกำแพงกันดินและรั้ว ในส่วนของรั้วมีการขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง แต่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดได้ตรวจสอบแล้วพบว่า การก่อสร้างรั้วไม่เป็นไปตามแบบแปลน จึงมอบหมายให้เทศบาลตำบลลาดหญ้า สั่งรื้อรั้วตามกฎกระทรวงข้อ 16 เพราะการสร้างกำแพงกันดินนั้น ฐานรั้วต้องอยู่ห่างจากแนวเขตเท่ากับความสูงของกำแพง ซึ่งเจ้าของที่ดินต้องถอนร่นแนวรั้วออกไปอีก 4.5 เมตร พร้อมสร้างระบบระบายน้ำ จึงให้ทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า ส่งวิศวกรเข้าตรวจสอบความมั่นคง และให้ดำเนินการรื้อถอนรั้วให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันหลังรับแจ้ง หากเพิกเฉยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับความเสียหายที่เกิดจากการถมดิน ได้มอบหมายให้โยธาธิการและผังเมืองร่วมกับเทศบาลตำบลลาดหญ้า ส่งวิศวกรและช่างลงไปประมาณการความเสียหายของผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ยุติธรรมลงพื้นที่เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของทั้งสองฝ่าย โดยให้นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า และผู้ใหญ่บ้าน ลงไปพูดคุยกับผู้เสียหายด้วย
ด้าน นางมธุรส คุ้มประสิทธิ์ ตัวแทนชาวบ้าน เปิดใจทั้งน้ำตาว่า รู้สึกตื้นตัน และขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญคือต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน เพราะในระยะเวลาที่สื่อออกข่าวเพียง 2 วันก็ได้ข้อยุติแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนต่อสู้มาถึง 2 ปี เพราะสิ่งที่ตนต้องการคือความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเมื่อดินเป็นตัวปัญหา ก็ควรขยับถอยออกไป ซึ่งตนรู้สึกพอใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่ไหว
