วันที่ 6 พ.ย. 2564 พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พ.ต.ท.นิติพงษ์ สีทาเลิศ รอง ผกก.(สืบสวน) นำตัวนายกฤษดา หรือแพ เจียมรัมย์ อายุ 21 ปี ชาว ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาสอบสวน หลังจากก่อเหตุเข้าไปขโมยปืนลูกซองโบราณจำนวน 2 กระบอกของสิบเอก สิทธิ์ศักดิ์ ธาสถาน อายุ 63 ปี อยู่เลขที่ 271 หมู่ 10 ต.สตึก อ.สตึก ข้าราชการบำนาญ ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
การจับกุมดังกล่าวหลังจากชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ ว่าเห็นนายแพ สะพายปืนเล่นทั่วคุ้มประมง เวลาเมายาบ้าเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตราย ตำรวจจึงนำตัวพร้อมปืนมาสอบสวนที่ สภ.สตึก และพบว่าปืนดังกล่าวมีคนแจ้งหายไว้ที่ สภ.สตึก แล้ว จากนั้นชุดสืบสวนจึงไปค้นที่บ้านของนายแพ พบปืนอีก 1 กระบอก รวม 2 กระบอก นอกจากนี้ยังพบโน๊ตบุ๊กอีก 1 เครื่องที่อยู่ในบ้าน ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินที่ขโมยมา
โดยนายแพ ยังสารภาพด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ได้ขึ้นบ้านเรือนชาวบ้าน ขโมยได้ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาทมา 1 เส้น จึงเอาไปแลกยาบ้าได้ 50 เม็ด หลังจากนั้นได้เอาไปเสพเล่นอย่างสนุกสนาน ที่เหลือตระเวนเอาไปแจกเพื่อนๆในคุ้ม เพื่ออยากจะให้ทุกคนมีความสุขด้วยกัน
ต่อมาสิบเอกสิทธิ์ศักดิ์ ธาสถาน เจ้าของปืนมาดูปืนที่ตำรวจตรวจยึดมาได้ พบว่าเป็นปืนที่หายไปจริง โดยนายสิทธิ์ศักดิ์ เล่าว่า ปืนทั้งสองกระบอก เป็นปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก เป็นปืนลูกซองยาวลูกกรดอีก 1 กระบอก ซึ่งปืนทั้งสองกระบอก ได้รับมรดกมาจากบรรพบุรุษสืบทอดกันมา ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะปืนลูกซองแฝด จะมีการลงยันต์ไว้ด้วย ตนรักษาไว้เป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะมีคนขโมยไปได้
หลังจากรู้ว่าปืนหายไป ตนได้ไปบนบานถึงบรรพบุรุษ ว่าของที่หายไป ขอให้ของยังอยู่ในพื้นที่ และได้คืนมาโดยเร็ว ซึ่งก็ตรงกับที่บนบานเอาไว้ เพียงไม่กี่วัน ก็ได้ปืนกลับคืนมา ขอบคุณตำรวจ สภ.สตึก ที่สามารถจับกุมคนร้ายมาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน พรบ.อาวุธปืน และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์