น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาตั้งข้อสังเกตปัญหาสภาล่มสะท้อนรัฐบาลขาดเสถียรภาพว่า เท่าที่ติดตามข่าวพบว่า สาเหตุที่สภาฯล่มเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดจากส.ส.พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ในซีกของพรรคฝ่ายค้านไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม 10 เสียงเอง ซึ่งการที่ส.ส.ไม่เข้าร่วมประชุมโดยไม่มีเหตุจำเป็นนั้น สะท้อนถึงความไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของส.ส. แต่ละบุคคล แต่นายรังสิมันต์กลับนำประเด็นดังกล่าวมามโนเชื่อมโยงกับเสถียรภาพรัฐบาล สะท้อนตรรกะที่ผิดเพี้ยน ซึ่งตนมั่นใจว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพและจะอยู่บริหารประเทศครบเทอม
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้ส.ส.ที่ขาดประชุมสภาฯ ก็มีข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการพ.ศ.2563 ข้อ 14 ที่กำหนดว่าสมาชิกและกรรมาธิการต้องอุทิศเวลาให้แก่การประชุม โดยคำนึงถึงการตรงต่อเวลา และต้องไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นแต่ในกรณีเจ็บป่วย หรือมีเหตุสุดวิสัย โดยในข้อ 29กำหนดว่าการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามความข้างต้นนี้ให้ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ อันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของรัฐสภา
ส่วนที่นายรังสิมันต์ มองว่าปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเกิดจากรอยร้าวในพรรคพลังประชารัฐว่า นายรังสิมันต์ควรเอาเวลาไปตักเตือนส.ส.ในพรรคให้มีจิตสำนึกทำหน้าที่ต่อประชาชนในพื้นที่ที่เลือกเข้ามา ให้คุ้มค่าภาษีของพี่น้องประชาชน จะดีกว่ามานั่งห่วงกิจการภายในพรรคการเมืองอื่น ที่สำคัญควรทบทวนบทบาทของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่วันๆ โพสบนโชเชียล ไม่ลงพื้นที่พบปะประชาชน อย่างจริงจัง ประชาชนหลายพื้นที่ถามหา ส.ส. พรรคก้าวไกล เลือกมาแล้วหายไปไหน พรรคก้าวไกลควรก้าวไปใส่ใจปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนมากกว่ายุ่งแต่เรื่องการเมือง หรือทุกวันนี้จ้องจะแก้ไขมาตรา 112 ยอมอยู่ใต้เงาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ใช่หรือไม่
“นายรังสิมันต์ควรใส่ใจอย่างละเอียดกับพรรคตัวเอง ว่าที่ผ่านมาทำหน้าที่คุ้มค่าเงินภาษีของพี่น้องประชาชนหรือยัง เสถียรภาพพรรคตนเองรอบหน้าคนจะเลือกหรือเปล่า” น.ส. ทิพานัน กล่าว