สำหรับคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลทั่วประเทศ จำนวน 385 แห่ง ปปช.ได้พิจารณาในจังหวัดนครราชสีมา เสร็จสิ้นเป็นจังหวัดแรก ซึ่งจากคำสั่งของ ปปช. ทำให้อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอย่างน้อย 3 คน ถูกลงโทษทางวินัยให้ไล่ออก
ล่าสุดทีมข่าวท็อปนิวส์ได้เดินทางไปยังอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ไปเปิดใจอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกกล่าวหา ถูกไล่ออก โดยอดีตผู้อำนวยการระบุว่าเป็นเหมือนการถูกประหารชีวิตในทางราชการ และเสมือนตายทั้งเป็น ทั้งที่ดำเนินการตามคำสั่งของต้นสังกัด
โดยทีมข่าวท็อปนิวส์ได้เปิดใจ นายไพทูรย์ อักษรครบุรี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านนาราก อรพิมพ์ ซึ่งถูกไล่ออกจากปมคดีจัดสร้างสนามฟุตซอลที่โรงเรียนบ้านสระว่านพระยา อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ด้วยข้อจำกัดที่ครูถูกไล่ออกจากโรงเรียนที่ตัวเองเป็นผู้อำนวยการไปแล้วนั้น จึงไม่อาจพาทีมข่าวไปดูลานสนามฟุตซอล หรือแม้แต่ใช้พื้นที่โรงเรียนดังกล่าว ในการให้ข้อมูลกับทีมข่าวได้ แต่อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งคำสั่งไล่ออกจากกรณีถูกชี้มูลว่าทุจริตในหน้าที่
กรณีสนามฟุตซอล ได้ยืนยันว่าขณะนั้นไม่อยู่ในฐานะที่ปฎิเสธใดๆได้ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้สงสาร แต่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องเห็นข้อเท็จจริงของมหากาพย์สนามฟุตซอลที่ซับซ้อน ชนิดที่ผู้อำนวยการโรงเรียนถูกไล่ออกแล้ว เป็นเรื่องเป็นไปได้ยากที่จะร่วมวางแผนกับการเมือง เพื่อแปรญัตติ แต่โรงเรียนเป็นปลายทางของงบประมาณ
ที่จริงแล้วไม่ใช่เฉพาะเฉพาะนครราชสีมา ที่ปชช.พบพิรุธในโครงการนี้แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดภาคอีสานเช่น อำนาจเจริญ มุกดาหาร รวมถึงในภาคเหนือ ที่กำลังถูกตรวจสอบ และปปช.ระบุว่าพบหลักฐานการทำเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามกลุ่มครูในนครราชสีมากลับตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใด นครราสีมา และ สพฐ.เขต 2 เป็นเป้าหมายแรกที่คืบหน้ามากที่สุดในตอนนี้
ด้าน นายอนันต์ สุวรรณะ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตูมราษฎร์บูรณะ หนึ่งในผู้ที่ถูกไล่ออก ระบุว่าหนึ่งในข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งคือพฤติกรรมของครู รวมกลุ่ม รวมตัวเพื่อวางแผนกับผู้ประสานงานนักการเมืองในการเคาะราคาจัดซื้อจัดจ้าง โดยอดีต ผอ.รายนี้ ระบุว่า ครั้งนั้นเป็นการจัดซ้อจัดจ้างแบบ อี บิดดิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับครู และยอมรับว่าเป็นจุดอ่อนในวิชาชีพที่อาจเป็นเครื่องมือ จึงต้องการให้รับฟังคำชี้แจงจากครูด้วยความเข้าใจ แต่ที่เจ็บปวดที่สุดหลังจากมีการทุจริตคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เคยมีคนกล่าวด่าว่า “ครูโง่เอง”
ในขณะที่ นายอุดม หวังหุ้นกลาง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทรัพย์เจริญ เปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ ว่าที่ผ่านมาเหมือนตายทั้งเป็น ไม่กล้าออกไปสู้หน้าใคร กลายเป็นคนขาดความมั่นใจ ทุกวันนี้ไม่รู้เลยว่าความสุขคืออะไร เพราะกังวลและเครียดกับคดีที่เกิดขึ้น ไม่เคยคิดว่าจะมาเจอวิบากกรรมในอาชีพราชการเช่นนี้
อย่างก็ตาม ด้าน นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ระบุว่าหากผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 หรือผู้ถูกลงโทษมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ถูกลงโทษตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้ว บทบาทหน้าที่ของ สพฐ.ก็จะต้องดำเนินการยืนยันตามมติของ ป.ป.ช.