วันที่ 10 พ.ย. 2564 พ.ต.อ. วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมพ.ต.ท.นิติพงษ์ สีทาเลิศ รอง ผกก.สส.สภ.สตึก นำกำลังชุดสืบสวน นำกำลังไล่จับกุม นายสุภาษิต บุญยะรัตน์ อายุ 31 ปี 55/3 ม.9 ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้กระท่อมริมทางถนนสายสตึก-พยัคฆ์ หลังสืบทราบว่าเป็นคนร้ายตระเวนขึ้นบ้านชาวบ้าน ในเขตเทศบาลสตึก และ ตำบลใกล้เคียง แล้วขโมยเอาทรัพย์สินหลายรายการ ตำรวจตรวจยึดของกลางได้เพียงบางส่วน ทั้งเงินสด เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายมาดูของกลางที่ สภ.สตึก พบว่าเป็นทรัพย์สิน ทั้งทองรูปพรรณ,พระ แหวน, นาฬิกา, เครื่องประดับกว่า 100 ราย เป็นของผู้เสียหายที่ถูกขโมยไป หนึ่งในผู้เสียหายเคยเป็นนายจ้างมาก่อน คาดรู้ช่องทาง
นางสาวชวนพิชญ์ แสนสุข อายุ 34 ปี ชาว ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ร้านขายของชำ ถนนสตึก-สะแก บอกว่า คนร้ายได้ขึ้นไปชั้นสองของบ้าน แล้วขโมยแหวนเพชรไป 1 วง มูลค่า 30,000 บาท แต่สิ่งที่อยากถามคนร้ายคือ การทิ้งเอาอุปกรณ์การเสพยา มีดพก วางไว้ หมายถึงอะไร โดยเฉพาะถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว หรือจะเป็นเคล็ดของหัวขโมยรุ่นใหม่ หลังจากขึ้นบ้านคนแล้วจะทิ้งไว้เหมือนขโมยรุ่นเก่ามักจะอุจระทิ้งไว้
จากการสอบสวนนายสุภาษิต ผู้ต้องหา ยอมรับว่าได้เข้าไปขโมยเอาทรัพย์สินจริง อุปกรณ์เสพยาไม่ได้ตั้งใจเอาทิ้งไว้ แต่เป็นเพราะเมื่อขโมยได้ของสำเร็จแล้ว จะนั่งเสพยาบนบ้านเข้าของบ้าน เพราะเชื่อว่าเจ้าของบ้านมักจะไม่ขึ้นมาชั้นสองในเวลากลางวัน ส่วนถุงยางอนามัยใช้แล้ว ก็เช่นเดียวกัน”มันหล่นเอง”เมื่อถามว่าใช้แล้วทำไมไม่เอาทิ้ง นายสุภาษิต บอกว่า”ไม่ขอตอบ”เพราะเป็นความลับ
หลังสอบสวน ชุดสืบสวนส่งตัวให้ ร.ต.อ.การุณ จันทรดอก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นตั้งข้อหาลักทรัพย์ และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์