สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2555 นายสหชัยฯ หรือโจ้ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. จับกุมพร้อมของกลาง เงินสด 46 ล้านบาท, น้ำมัน 2000 ลิตร และตรวจพบหลักฐานการซื้อขายน้ำมันเถื่อนจำนวน 500 ล้านลิตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับนายสหชัยฯ หรือโจ้ ในความผิดเกี่ยวกับการค้าน้ำมันเถื่อน และมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน ต่อมาจึงได้มีการออกหมายจับนายสหชัยฯ หรือโจ้ ในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งทางนายสหชัยฯ หรือโจ้ ได้พยายามหลบหนีการจับกุมเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตำรวจสอบสวนกลางสามารถจับกุมตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ได้ที่ตลาดกลางคืนย่านห้วยขวาง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ หลังจากนั้นจึงได้นำตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ได้ปรากฏข่าวตามสื่อต่างๆ ในกรณีที่นายสหชัยฯ หรือโจ้ ได้รับการปล่อยตัว ทางตำรวจสอบสวนกลางจึงขอชี้แจงประเด็นในการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนี้
การจับกุมนายสหชัยฯ หรือโจ้ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนายสหชัยฯ หรือโจ้ ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งหมายจับดังกล่าวเป็นหมายจับที่ชอบด้วยกฎหมาย ยังไม่ถูกถอนจากสารบบแต่อย่างใด การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นการกระทำโดยใช้อำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และถึงแม้ว่าภายหลังทางพนักงานอัยการจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ก็ตาม ในส่วนนี้ยังคงอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาขอความเห็นจาก ผบ.ตร. ว่าเห็นพ้องหรือเห็นแย้งในกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องหรือไม่
สำหรับการส่งตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ไปยังอัยการจังหวัดสงขลานั้น เป็นการส่งตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ไปยังสำนักงานอัยการตามที่ได้มีการส่งสำนวนคดีไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาก่อนหน้านี้ เพื่อให้พนักงานอัยการส่งฟ้องนายสหชัยฯ หรือโจ้ ต่อศาลตามอำนาจต่อไป ในส่วนของความเห็นของพนักงานอัยการจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง เป็นอำนาจและดุลพินิจของทางพนักงานอัยการ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างสุดความสามารถ
สำหรับเหตุที่ไม่ได้ส่งตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ไปยังศาลปัตตานีนั้น เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบในสารบบแล้วพบว่า นายสหชัยฯ หรือโจ้ มีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาเพียงหมายจับเดียว ไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานีที่นายสหชัยฯ หรือโจ้ ไม่ได้เข้ารับโทษตามคำพิพากษาของศาลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมิได้นำตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ส่งไปยังศาลจังหวัดปัตตานี
ในส่วนของกรณีที่นายสหชัยฯ หรือโจ้ ได้รับการปล่อยตัวหลังจากนำตัวส่งพนักงานอัยการแล้วนั้น ถือเป็นดุลพินิจของทางพนักงานอัยการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้แต่อย่างใด เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยงานอื่นฯ ถึงข้อมูลหมายจับค้างเก่าของนายสหชัยฯ หรือโจ้ แล้ว พบว่านายสหชัยฯ หรือโจ้ ไม่มีหมายจับค้างเก่าคดีอื่นๆ การชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นการชี้แจงต่อพนักงานอัยการตามข้อมูลที่ตรวจพบ ณ ขณะนั้น
ตำรวจสอบสวนกลาง ยังคงให้ความสำคัญสำหรับการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ยึดหลักความถูกต้อง ยุติธรรม ตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด