วันนี้ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวเป็นภาพของทวิตเตอร์สื่อมวลชนรายหนึ่งที่ทวิตข้อความหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยม็อบราษฎรล้มล้างการปกครองว่า การสื่อสารโดยยกข้อความสั้นที่ตัดออกจากบริบท อาจทำให้คนรับเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น จั่วหัวว่า “เห็นได้ว่าประวัติศาสตร์การปกครองของไทยนี้ อำนาจการปกครองเป็นของพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด” จริงๆแล้ว ข้อความนี้อยู่ในบริบทข้อความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ดังนี้
“โดยบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญปี 2475 เห็นได้ว่า ประวัติศาสตร์การปกครองของไทย อำนาจการปกครองเป็นของพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด นับตั้งแต่ยุคสุโขทัย อยุธยา ตลอดจนกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์มีพระราชภารกิจสำคัญยิ่งเพื่อรักษาความอยู่รอดของบ้านเมืองและประชาชน โดยดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย นำกองทัพต่อสู้ปกป้อง และขยายราชอาณาจักรตลอดเวลา ในยุคที่ผ่านมาถือหลักปกครองตามหลักศาสนา และทศพิธราชธรรมปกครอง พระมหากษัตริย์จึงเป็นที่เคารพศรัทธา ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดหลายร้อยปี”
และเขียนต่อด้วยว่า “แม้เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 คณะราษฎรผู้ก่อการ และประชาชนชาวไทย เห็นพ้องต้องกันอันเชิญพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักคงอยู่กับระบอบประชาธิปไตย โดยเรียกว่าระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และราชอาณาจักรคงไว้ซึ่งระบอบนี้ต่อเนื่อง ทำนองเดียวกับประเทศต่าง ๆ ที่มีความเป็นมาของชาติแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือเอกลักษณ์ หรือสัญลักษณ์ และทรัพย์สมบัติชาติ จะมีกฎหมายห้ามทำให้มีมลทิน หรือชำรุด” ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เขาแยกระหว่าง ก่อน และ หลัง 2475 หลัง พ.ศ.2475 พระมหากษัตริย์ไทยจึงไม่มีอำนาจการปกครองเหมือนอย่างก่อนหน้า พ.ศ.2475
โพสต์ดังกล่าวของศ.ดร.ไชยันต์ มีผู้ใช้เฟสบุ๊กเข้ามาแสดงความเห็นำจนวนมาก ซึ่งต่างวิจารณ์สื่อมวลชนดังกล่าวอาทิ ความวุ่นวายในบ้านเมืองส่วนหนึ่งมาจากสื่อที่นำเสนอข่าวแบบพาดหัวข่าวเช่นนี้ และพวกที่อ่านหนังสือไม่เกินหนึ่งบรรทัดโดดงับทันที ,จริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่อสมัยนี้ช่างถดถอยนักครับท่านอาจารย์ และไม่หวังดีกับบ้านเมือง ศาลต้องดำเนินคดีเอาผิดกับการนำเสนอข้อความตัดตอนแบบนี้ให้เป็นตัวอย่าง